จากเกมสุดฮิตในเครื่อง PlayStation ถูกดัดแปลงมาให้เป็นหนังใหญ่เอาใจแฟนคลับ โดยค่าย Sony Pictures ผนึกกำลังทีมงานถ่ายทำหนังแฟรนไชส์ “ไอ้แมงมุม” มาเนรมิตฉากในเกมให้สมจริง ทั้งยังได้ “รูเบน เฟลสเชอร์” ผู้กำกับชื่อดัง ที่เคยทำหนังแอนตี้ฮีโร่อย่าง Venom และหนังจากเกมอย่าง Zombieland มาคุมบังเหียน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่คอหนังแอ๊คชั่นผจญภัยจะพลาดการชมเรื่องราวความสนุกจากภาพยนตร์ระดับบล็อกบลัสเตอร์ อย่าง “Uncharted” ยิ่งใครได้ไปชมในระบบไอแมกซ์ (IMAX) ด้วยแล้ว คงได้ยลความสวยงามของฉากต่าง ๆ รวมทั้งความกระหึ่มของเสียงไปแบบเต็ม ๆ

เรื่องย่อ Uncharted
“นาธาน เดรก” หรือ “เนท” (รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์) โจรหนุ่มสุดฉลาดและมีไหวพริบ ถูกเลือกโดยนักล่าขุมทรัพย์รุ่นเก๋า “วิกเตอร์ ซัลลิแวน” หรือ “ซัลลี่” (รับบทโดย มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) เพื่อหาขุมทรัพย์ทองของนักเดินเรือชื่อดังในอดีตนามว่า “มาเจลลัน” โดยมีโคตรมหาสมบัติ 500 ปี ที่ไม่มีใครเคยเจอมาก่อน จุดเริ่มต้นของการโจรกรรมง่าย ๆ กลายเป็นการแข่งขัน สุดมันส์ข้ามทวีป เพื่อให้ถึงจุดหมายก่อนที่ “มอนคาด้า” (แอนโตนิโอ แบนเดอรัส) ผู้ที่คิดว่าตัวเองคือผู้สืบทอดและเป็นเจ้าของที่แท้จริงของมหาสมบัติจะได้ไปครอบครอง การผจญภัยสุดมันส์ของ “เนท” และ “ซัลลี่” ที่ต้องแก้ปมปริศนา เพื่อที่พวกเขาจะได้ พบกับขุมสมบัติมูลค่า 5 พันล้านเหรียญ และไม่แน่ว่าการผจญภัยครั้งนี้ อาจทำให้ “เนท” ได้พบกับพี่ชายที่หายสาบสูญไปก็เป็นได้

ที่แน่ ๆ การไปหาสมบัติย่อมมีตัวร้ายมาคอยขัดขวาง (ตามแบบฉบับหนังแนวล่าขุมทรัพย์) นำโดย “แบรดด็อก” (รับบทโดย ทาทิ แกเบรียล) มือสังหารสาวโหดเหี้ยม เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองสัมบัติ นอกจากนี้ยังมี “โคลอี เฟรเซอร์” (รับบทโดย โซเฟีย อาลี) นักล่าสมบัติสาวสุดเซ็กซี่ ที่พยายามจะอาศัย “เนท” เป็นสะพานไปสู่ขุมสมบัติ

ความโดดเด่นของ Uncharted

ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังของ Sony Pictures เรื่องโปรดักชั่นและงานขาย CG ขอให้หายห่วงไปได้เลย ความสมจริง ความสวยงามของสถานที่ ตลอดจนฉากการต่อสู้แบบเสี่ยงเป็นตายสวยงามโดดเด่น อลังการงานสร้าง แล้วยังต้องดูเท่ตามแบบฉบับ ผู้กำกับ “รูเบน เฟลสเชอร์” แน่นอน เหนือสิ่งอื่นใดเรื่องนี้ค่อนข้างเอาใจแฟนเกม PlayStation ทั้งฉากและเสียงดนตรีประกอบ ถ้าเป็นเกมเมอร์ตัวจริงก็ย่อมจะจำได้แน่นอนว่า ช่วงไหนตอนใดของเกมที่ถูกจับมาวางไว้ในแต่ละองค์ของหนังเรื่องนี้

สำหรับบทบาทของสองตัวเอก “เนท” และ “ซัลลี่” ก็ยังจะเอาใจแฟนคลับเหมือนเดิม “ทอม ฮอลแลนด์” โชว์ซิกแพ็กและความฟิตปีนขึ้นที่สูงราวกับเป็น “สไปเดอร์แมน” ที่คุ้นเคย ขณะที่ “มาร์ค วอห์ลเบิร์ก” เหมือนเป็นอาจารย์คอยสอนลูกศิษย์ (บ่นไป…บ่นมา) แล้วยังชอบตบมุกโบ๊ะบ๊ะ ทำหน้าหงิกหน้างอ งง ๆ เคมีการเข้าขาของสองตัวละครเอกแรก ๆ เหมือนจะไปไม่รอด แต่หลัง ๆ ก็ยังดูโอเคผ่านอยู่ สุดท้ายต้องชื่นชมผู้เขียนบท ที่ทำให้ตามหาสมบัติแนวแปลก ๆ ดูน่าสนใจกว่าเดิม หลังจากสร้างปริศนาหนึ่งแห่ง ผูกโยงไปยังปริศนาอีกแห่ง โดยให้มีความสอดคล้องกับสถานที่และประวัติศาสตร์ ทำให้เรื่องราวดูสมจริงและเป็นเหตุเป็นผล แม้จะมีความโอเวอร์เกินจริงไปบ้างก็ตาม

จุดอ่อนของ Uncharted

ความจริงที่น่าเสียดายอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ก็คือ เนื้อหาที่ทำมาจากเกม มีการเล่าเรื่องราวแบบตรงไปตรงมา แต่ก็ยังบอกไม่หมด หลายฉากมีอะไรที่ขาด ๆ เกิน ๆ ซึ่งเรื่องนี้แฟนเกมน่าจะจับทางได้ว่าอะไรเป็นอย่างไร นอกจากนี้การส่งบทตัวร้ายอย่าง “มอนคาด้า” ไปให้ “แอนโตนิโอ แบนเดอรัส” กลับกลายเป็นสิ่งที่ชวนให้ขบคิด เพราะดูเหมือนจะใช้ดาราดังแบบไม่คุ้มค่า เหมือนเป็นเพียงตัวประกอบที่ออกมาโชว์ไม่กี่ฉากแล้วก็หายไป น่าจะดัดแปลงให้โชว์สกิลแอ๊คชั่นเท่ ๆ ได้แต่ก็ไม่ได้ทำ ไปเน้นให้ “ทาทิ แกเบรียล” รับบทนางร้ายอย่าง “แบรดด็อก” เพื่อโชว์แอ๊คชั่นต่อสู้กับฝั่งตัวเอก ภาพรวมของหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ๊คชั่นที่ดูแล้วสนุกแน่นอน แต่ก็ยังพลาดในเรื่องความดราม่าโดยเฉพาะปมประเด็น พี่ชายของเนท ที่หายตัวไปซึ่งปูพื้นเรื่องมาดีในองค์แรก แต่พอมาในช่วงองค์หลัง เรื่องราวของพี่ชายก็โดนตัดหายไปดื้อ ๆ

3/5 กะโหลก ถือเป็นหนังที่ขายความเป็น “ทอม ฮอลแลนด์” และเอาใจแฟนเกมอย่างไม่ต้องสงสัย ดีต่อใจสำหรับผู้ใหญ่แล้วยังดีต่อใจสำหรับเด็กด้วย เพราะไม่มีฉากโหดแบบเลือดนองกองพื้น หรือฉากชวนสยองแต่อย่างใด.

————————————————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube และ Sony Pictures Entertainment