ในส่วนของ 10 ประเทศสมาชิกกลุ่มอาเซียน ซึ่งรวมถึงไทยเรา บทวิเคราะห์ในนิตยสาร เดอะ ดิโพลแมต โดยผู้เขียน เจมส์ กิลด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกว่า แต่ละประเทศในอาเซียน มีระดับและรูปแบบ การสัมผัสกับเศรษฐกิจของรัสเซีย แตกต่างกันไป
กล่าวโดยกว้าง ๆ ผลกระทบที่อาเซียนจะได้รับจากสงครามยูเครนแน่ ๆ คือ ราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น และวิกฤติห่วงโซ่อุปทานการผลิตบางอุตสาหกรรม จะส่งผลกระทบทั่วอาเซียน ในหลายแนวทางแตกต่างกัน
อันดับแรก เรามาดูกันที่ราคาพลังงาน รัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ของโลก แต่การสัมผัสโดยตรงของอาเซียน กับพลังงานรัสเซีย “ค่อนข้างจำกัด” สิงคโปร์นำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมกลั่น 38,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.29 ล้านล้านบาท) ในปี 2562 แต่เพียงแค่ 5.7% ในจำนวนดังกล่าว นำเข้าจากรัสเซีย และไทยสถานการณ์คล้ายกัน นำเข้าน้ำมันดิบ 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 553,369.30 ล้านบาท) ในปี 2562 เพียงแค่ 3.3% นำเข้าจากรัสเซีย
เวียดนามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย 15% ของการบริโภคภายในประเทศทั้งหมด ถือว่ามากพอสมควร แต่ผลกระทบจากวิกฤติยูเครน อาจชดเชยได้ ด้วยการหันไปนำเข้าถ่านหิน จากออสเตรเลียและอินโดนีเซียแทน
อันที่จริง ราคาพลังงานตกอยู่ภายใต้แรงกดดันราคาขยับขึ้น มานานหลายเดือนแล้ว สงครามยูเครนเพียงแต่ดันราคาให้สูงขึ้นอีก
สรุปในประเด็นนี้ก็คือ ประเทศอาเซียนส่วนใหญ่ ไม่ได้สัมผัสกับพลังงานรัสเซียโดยตรงมากจนเกินไป แต่หลายประเทศอาจประสบปัญหากำลังการผลิตลดลงอย่างรวดเร็ว (supply shock) ในอุตสาหกรรมการผลิตสำคัญ และการนำเข้าสินค้าการเกษตร โดยสงครามยูเครนจะผลักดันราคาสูงขึ้น สำหรับสินค้าทุกประเภทที่เคยนำเข้าจากรัสเซียและยูเครน
ส่วนราคาอาหารจะสูงขึ้นทั่วอาเซียน เหมือนกับที่สูงขึ้นทั่วโลก จากแรงกดดันเงินเฟ้อ ตั้งแต่ก่อนสงครามยูเครน หลายประเทศของอาเซียนคาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักกว่า จากการสัมผัสโดยตรงกับคู่ขัดแย้งมากกว่า
ในปี 2562 อินโดนีเซียนำเข้าข้าวสาลี รวมมูลค่า 2,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 68,337.78 ล้านบาท) มากกว่า 25% ในจำนวนดังกล่าว นำเข้าจากรัสเซียและยูเครน ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวสาลี 1,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกือบ 16% สั่งซื้อจากรัสเซียและยูเครน และอีกหลายประเทศของอาเซียนสั่งซื้อจากสองประเทศนี้เช่นกัน แต่น้อยกว่าหลายเท่า
เกือบครึ่งของปุ๋ยโพแทสเซียม ที่อินโดนีเซียใช้ทั้งหมดในประเทศ นำเข้าจากรัสเซียและเบลารุส การนำเข้าที่ขาดหายไปในส่วนนี้ จะไปโผล่ในราคาอาหารที่แพงขึ้น
อุตสาหกรรมการผลิตของอาเซียน คาดว่าจะได้รับผลกระทบเช่นกัน จากการที่รัสเซียและยูเครน เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ เหล็กและเหล็กกล้ากึ่งสำเร็จรูป วัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตรถยนต์ เครื่องจักรกล และอิเล็กทรอนิกส์
ข้อมูลในปี 2562 ไทยนำเข้าเหล็กกล้ากึ่งสำเร็จรูป หรือเหล็กกล้าขั้นกลาง 21.4% ของทั้งหมด จากรัสเซียและยูเครน อินโดนีเซีย 25% และฟิลิปปินส์เกือบครึ่งหนึ่ง
แม้ห่วงโซ่อุปทานจะมีความยืดหยุ่น เมื่อการส่งออกของรัสเซียขาดหายไปจากตลาด ผู้ผลิตอื่น ๆ ก็จะเพิ่มผลผลิต แต่ราคาสินค้าจะสูงขึ้นในระยะสั้น ขณะที่ตลาดกำลังปรับตัว
ในหลายประเทศของอาเซียน แรงกดดันด้านราคาต่อสินค้าซื้อประจำ ในทางทฤษฎีจะหนักปานกลาง จากการแทรกแซงและการอุดหนุนของรัฐ รวมทั้งด้วยกลไกอื่น ๆ.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : REUTERS