หวยแพง!! กลายเป็นปัญหา…ที่ไม่ว่ารัฐบาลไหน? ก็ไม่สามารถทะลุทะลวงแก้ไขปัญหาได้ แถมนับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน

ทั้งเรื่องของราคา ทั้งเรื่องของจำนวนสลากฯ จำนวนผู้ขายสลากฯ รูปแบบการจำหน่าย หรือแม้กระทั่ง!! การทำความผิดในสารพัดรูปแบบ

ที่สำคัญ…ความรุนแรงของเรื่องหวย ไม่ได้หยุดยั้งอยู่แค่ หวยของรัฐแต่เพียงอย่างเดียว แต่กลับส่งผลไปถึง “หวยใต้ดิน” ด้วยเช่นกัน เพราะเลือกเลขได้ตามใจ แถมไม่ต้องจ่ายทันที รอให้ถูกก่อนแล้วค่อยจ่าย หรือทบไปงวดถัดไปก็ยังมี

ในยามที่เศรษฐกิจตกสะเก็ดเช่นนี้ ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้การเล่นหวยใต้ดิน มีมากขึ้น ว่ากันว่า เงินสะพัด เป็นแสนล้านบาทกันทีเดียว ก็ตามสไตล์คนไทย ที่อยู่คู่กับหวยกันมานาน อยู่คู่กับความเชื่อกันทุกวัน

เซียนหวยเงียบกริบไร้เงาเลขดัง | เดลินิวส์

การหวังรวยทางลัด รวยจากโชค ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยสร้างความหวัง ช่วยชะโลมจิต ชะโลมใจ ใครที่มี “สติ” หน่อย ก็เล่นแบบนิด ๆ หน่อย ๆ พอเสี่ยงโชค แต่คนที่ “หวังรวย” โดยไม่ดูฐานะตัวเอง ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้

ปัญหาหวยแพง!! ส่วนหนึ่งเกิดมาจากระบบและวิธีการจัดจำหน่ายนั้น ได้เปิดช่องให้เกิดการไปซื้อต่อ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของระบบตัวแทนจำหน่าย ทั้ง 31 ล้านฉบับ หรือตัวแทนรายย่อย ทั้ง 69 ล้านฉบับ

เพราะเมื่อทุกวันรับสลากฯ แม้ราคาต้นทางที่สำนักงานสลากฯ ขายให้กับผู้จำหน่ายทั้งหมดในราคาใบละ 70.40 บาท แต่เมื่อสลากฯ มีการขายต่อ ราคาจากใบละ 70.40 บาท ก็แพงขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งต้องยอมรับว่า ณ เวลานี้ บรรดาผู้ค้าสลากฯ ไม่ได้มีเพียงแค่ เอเย่นต์ ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เท่านั้น แต่มีการขายช่วงหลายทอด จึงทำให้ราคาขายปลีกที่มาถึงมือผู้อยากรวยทางลัดจริง ๆ จึงตกใบละอย่างน้อย 100 บาท

ทุกวันนี้สำนักงานสลากฯ ได้จัดพิมพ์สลากฯ ในแต่ละงวดมากถึง 100 ล้านฉบับ โดยจัดสรรให้ตัวแทนจำหน่าย 31 ล้านฉบับ ซึ่งก็มีทั้ง บุคคลทั่วไปและผู้ค้ารายย่อย 28,519 ราย, คนพิการ 3,592 ราย และสมาคม-องค์กร-มูลนิธิ 899 ราย

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบุคคลทั่วไปและผู้ค้ารายย่อย และสมาคม-องค์กร-มูลนิธิ รับสลากฯ ไปจำหน่ายต่อที่ สำนักงานใหญ่ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี หรือผ่านสำนักงานคลังจังหวัดแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ  รวมถึงกลุ่มคนพิการไปรับสลากฯ มาจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ

ส่วนอีก 69 ล้านฉบับ ก็จะเป็นของรายย่อย ตามระบบซื้อ-จองล่วงหน้า ตามยอดลงทะเบียนก็มีมากกว่า 1.55 แสนรายทีเดียว ที่สามารถไปรับสลากฯ มาขายต่อได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ

ด้วยระบบการจำหน่ายเช่นนี้ ทำให้ไม่มีเครื่องมือที่จะไปห้ามไม่ให้เกิดการซื้อต่อ ขายต่อ หรือขายช่วงใด ๆ ได้ เพราะในแต่ละช่วง แต่ละทอด ก็สร้างรายได้เป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว

อย่าลืมว่าราคาสลากฯ ที่ตั้งราคาขายใบละ 80 บาท ในแต่ละงวดมีจำนวน 100 ล้านฉบับ ก็เท่ากับว่า มีรายได้เกิดขึ้น 8,000 ล้านบาท แต่ในจำนวนนี้ ต้องจัดสรรเป็นเงินรางวัล 60% หรือประมาณงวดละ 4,800 ล้านบาท

งวดนี้ลอตเตอรี่แพงใบ 110 บาท เลขดัง 59 แรงสุดขายใบละ 130 | เดลินิวส์ | LINE  TODAY

นอกจากนี้ต้องนำส่งรายได้เข้าคลังจำนวน 23% หรือตกใบละ 18.40 บาท หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,840 ล้านบาทต่องวด หรือ ปีละ 40,000 ล้านบาท และยังมีส่วนลด 12% ให้กับผู้ค้ารายย่อย หรือใบละ 9.60 บาท หรืองวดละ 960 ล้านบาท พูดง่าย ๆ ก็เป็นกำไรของคนขายหวยนั่นแหละ

ขณะเดียวกันยังมีค่าใช้จ่ายบริหารงาน สมาคม องค์กร จังหวัด อีก 2% หรืองวดละ 160 ล้านบาท เป็นค่าบริหารสำนักงานสลากฯ อีก 3% หรือ งวดละ 240 ล้านบาท รวมกันแล้วก็ประมาณ 400 ล้านบาทต่องวด

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มูลค่าของสลากฯ แต่ละใบ ไม่ใช่อยู่ที่ใบละ 80 บาท หรือ 8,000 ล้านบาท ต่องวด หากคิดแบบราคาเฉลี่ย ที่ใบละ 100 บาท เท่ากับว่า มูลค่าของสลากฯ จะตกอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท

นั่นหมายความว่า… เงินที่คนขายหวยในแต่ละงวด งวดละประมาณ 960 ล้านบาทนั้น มีส่วนต่างเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่างวดละ 2,000 ล้านบาท หากคิดยอดรวมทั้งปี ก็ตกอยู่ประมาณ 48,000-50,000 ล้านบาทกันทีเดียว

เห็นจำนวนเงิน กันเช่นนี้!! คงไม่ต้องบอกเหตุผลว่า ทำไมหวยจึงแพง?

ถามว่า…ใช่ความผิดของสำนักงานสลากฯ หรือไม่ ที่หวยแพง แม้เป็นผู้ผลิต ผู้จำหน่าย แบบผูกขาด ก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละ แต่ขณะเดียวกันผู้มีหน้าที่อย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องขับเคลื่อนบังคับใช้กฎหมายเช่นกัน

แต่ก็นั่นแหละ…ผู้ค้าผู้ขายมีเป็นแสนคน จะตามจับอย่างไรกันไหว!!

หลายคนถามว่า สุดท้ายแล้วควรปรับระบบจำหน่ายกันใหม่หรือไม่? คำตอบ.. นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องทำอย่างยิ่ง!! แต่ไม่ใช่ปล่อยให้สำนักงานสลากฯ เดินหน้า บุกเหนี่ยวเป็นหน่วยกล้าตาย แต่ฝ่ายเดียว แต่ผู้บริหาร ผู้กำหนดนโยบาย ต้อง “กล้า” ที่จะเปิดทางให้ด้วย!!

ไม่เช่นนั้น…การจะได้เห็นหวยถูก หวยไม่แพง คงได้แค่ฝันไป!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”