หลังจากนี้ คน กทม. ต้องรอสแกนได้เลยว่า ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ใครจะใช้นโยบายอะไรในการดึงดูดและซื้อใจคน กทม. ได้ และคน กทม. จะฝากความหวังในอนาคตกับใคร ที่คิดว่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นับจากมีรัฐประหารไม่ได้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. มานานถึง 9 ปี อีกทั้งต้องเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 “ทีมการเมืองเดลินิวส์” จึงต้องมาสนทนากับ “ผู้พันปุ่น” น.ต.ศิธา ทิวารี หนึ่งในผู้สมัครในค่ายพรรคไทยสร้างไทย ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการก่อนการเปิดรับสมัคร 1 วัน ขณะที่ผู้สมัครฯรายอื่น ๆ ที่ชัดเจน ลงพื้นที่ชิงหาเสียงไปก่อนหน้าแล้ว จะเป็นเหตุให้เสียเปรียบหรือไม่

น.ต.ศิธา เริ่มเปิดฉากกล่าวถึงเส้นทางการเมือง ว่า เหตุผลที่ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคไทยสร้างไทย เนื่องจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคฯ ได้ชักชวนมาทำงานการเมืองอีกครั้ง หลังจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ขอให้มาช่วยทำการเมืองให้ถูกต้องตามอุดมคติ มาช่วยทำการเมืองที่เป็นโครงสร้างให้กับลูกหลานขึ้นมาทำงานต่อได้ เรามาทำประเทศให้ดีที่สุดเพื่อส่งมอบแก่ลูกหลาน มาทำตัวเป็นนั่งร้านให้เขาสร้างตึกที่ชื่อว่าประเทศไทยให้มีความแข็งแรง พอเขาจะสามารถก่อร่างสร้างขึ้นมาได้ เราก็ถอนนั่งร้านออก แล้วก็ออกมาดู ไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน จึงได้ตัดสินใจลงมาสมัครชิงผู้ว่าฯกทม. ในครั้งนี้

@ผู้สมัครคนอื่นลงพื้นที่มาเป็นปี แต่ น.ต.ศิธา เพิ่งเปิดตัวก่อนการเลือกตั้ง จะเสียเปรียบคู่แข่งหรือไม่

คิดว่าเป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ผมเป็นคน กทม. ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงตอนนี้เท่ากับเป็น ส.ส.กทม. มา 22 ปี รู้ปัญหา กทม. ดี เพราะได้ทำงานร่วมกับคนกรุงเทพฯมาโดยตลอด ช่วงที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ผมไม่เคยทิ้งพื้นที่ เวลามีงานอะไร ผมก็ไปช่วยในพื้นที่คลองเตย ดังนั้นถือว่าเรามีเวลา 50 กว่าวัน ในการนำเสนอสิ่งที่เราสั่งสมมา และแนวทางแก้ไขปัญหาที่เรามองว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรให้กับประชาชนได้รับทราบ ถึงแม้อาจจะไม่ทัน แล้วถ้าเราไม่ชนะเลือกตั้ง อย่างน้อยสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือ คนก็เริ่มเข้าใจสิ่งที่พรรคจะทำ สิ่งที่เราจะแก้ปัญหาให้กับ กทม. สิ่งที่ไทยสร้างไทยต้องการทำให้กับประเทศนี้ คุณก็ดูได้จาก กทม. จากทุกอย่างที่เราทำ เพราะฉะนั้นมันคือการนำเสนอนโยบายให้คนทั้งประเทศได้รับทราบ ถ้าเราชนะ เราชนะเลย และทำ กทม. เป็นตัวอย่างต้นแบบให้กับประเทศไทยได้เลย ถ้าเราแพ้ คนก็จะดูว่าเราจะทำอะไรให้กับประเทศ

“เราตั้งใจทำในสิ่งที่เราตั้งใจที่สุด เราเหมือนกับนักบินขับไล่คนหนึ่ง เมื่อมีภารกิจหนึ่งให้เราปฏิบัติ ผมไม่ต้องคิดว่าจะตายหรือไม่ แล้วจะได้กลับมาหรือไม่ ถ้าคุณไปถึงที่หมายแล้วทำมันให้สำเร็จตามจุดมุ่งหมาย เราอาจจะเสียเครื่องบินไปลำหนึ่ง แต่เราได้เรือบรรทุกเครื่องบินมาหนึ่งลำ ผมก็ยอม ยืนยันผมสู้แน่ ๆ สู้เต็มที่ สู้เพื่อชัยชนะ ถ้าแพ้ผมก็ยอมรับได้ ไม่เครียด ไม่กังวลเรื่องผลแพ้ชนะ แต่ผมจะทำให้มากที่สุด เพื่อให้คนกรุงเทพฯเข้าใจว่าผมต้องการทำอะไร”

@คิดว่าจะขายอะไรให้กับคน กทม. นโยบายไหนดึงดูด จนคน กทม. ต้องมาเลือกกัน

สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หรือ 3P “People Profit Planet”

“People” การสร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพฯ ผมจะเป็นผู้ว่าฯกทม.คนแรกที่ให้อำนาจชาวกรุงเทพฯ มีส่วนร่วมในการบริหารและตรวจสอบการใช้งบประมาณ กทม. ด้วยสภาชุมชน เพื่อกำจัดคอร์รัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม. ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ ผ่านเทคโนโลยี Blockchain โดยประเมินความสามารถของทุกหน่วยงานของ กทม. จะใช้ Bangkok Coin ให้รางวัลจูงใจในการสร้างการมีส่วนร่วมของคน กทม. เพื่อให้เป็น Active Citizen ผมจะลงทุนกับการสร้างคนให้มากที่สุด ตั้งแต่กรุงเทพฯเคยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมา ผมจะทำโรงเรียนสังกัด กทม. ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกัน ความเป็นเลิศทางการศึกษาต้องไปพร้อมกันทุกโรงเรียน โดยครูจะเป็น Facilitator ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ป้อนความรู้ โรงเรียนที่ดีที่สุด คือ โรงเรียนที่ใกล้บ้านที่สุด

“Profit” สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง เพื่อ Take off กรุงเทพฯ ผมจะนำร่องกองทุนเครดิตประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อล้างหนี้นอกระบบให้ทุกคนตั้งตัวได้ สร้าง Bangkok Creative City ใช้วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ จัด Event สร้างรายได้ให้ทุกเขต ทุกเดือนทั่วกรุงเทพ สร้างเมืองหลวง Street Food ของโลก อาหารสะอาด รสชาติอร่อย สร้างที่ค้าขายทุกเขตทั่ว กทม. ได้ 24 ชั่วโมง แก้ปัญหาส่วยหาบเร่แผงลอย ด้วย DAO และกลไกสภาชุมชน สร้างกรุงเทพให้เป็น New Economy Hub บ่มเพาะเด็กกรุงเทพให้เป็น Nano Entrepreneur ด้วยการสนับสนุนเงินลงทุนและให้ความรู้ ควบคู่ไปกับการสร้าง Ecosystem ของกรุงเทพฯ ให้เป็นออฟฟิศดึงดูดคนเก่ง และนักลงทุนจากทั่วโลก

“Planet” สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯอย่างยั่งยืน บอกลาน้ำรอระบาย ด้วยแพ็กเกจแก้น้ำท่วมก่อนกรุงเทพฯจมบาดาล ลดมลพิษ ลดฝุ่น PM 2.5 โดยห้ามรถที่ปล่อยควันเสียวิ่งใน กทม. ควบคุมการก่อสร้าง เร่งปลูกต้นไม้ ผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย กทม. สนับสนุนการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในทุกเขต สร้างเมืองสุขภาพดี เพิ่มสถานที่ออกกำลังกาย ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แจกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่งเสริมคน กทม. ให้ออกกำลังกาย คนกรุงเทพต้องไม่ตายผ่อนส่งจากโรคมะเร็ง ต้องกินอาหารที่ปลอดภัย ปลอดสารพิษ โดยการตรวจอย่างเคร่งครัด เพิ่มพื้นที่สีเขียว จาก 6.97 ตร.ม./คน เป็น 9.0 ตร.ม./คน ตามมาตรฐานนานาชาติ พร้อมทั้งปูพรมบริหารจัดการขยะ ผมขอทุบทำลายทุกปัญหาให้พี่น้องคนกรุงเทพฯ จะไม่แก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่เกี้ยเซียะปล่อยให้มีการแสวงหาประโยชน์ใน กทม. เป็นสมบัติผลัดกันชม เราจะทุบหม้อข้าวผู้ที่หาผลประโยชน์ทางการเมือง ในหน่วยงานต่าง ๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริต.