ถูกจับตามองอย่างมากสำหรับกรณีคลิปเสียงฉาวสนั่นโซเชียลที่ถูกเผยแพร่ออกมาจนเป็นกระแสระบุว่า คล้ายกับพระหนุ่มนักเทศน์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช พัวพันกับสีการายหนึ่ง จนเป็นข่าวที่ถูกให้ความสนใจอย่างมาก ทำให้หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่ พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ “หลวงพี่กาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดัง กระทั่งถูกกดดันจากสังคมจนต้องสึกจากความเป็นพระ ขณะที่ พระย้อย พระที่ออกมาแฉได้รับผลกระทบถูกพระผู้ใหญ่มีคำสั่งให้ขับออกจากวัด จนเป็นกระแสอีกครั้งและต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาร่วมทีมกับหมอปลาและทนายดังออกรายการ โหนกระแส โดยมีรายงานว่าก่อนเดินทางออกมาจากวัด พระย้อย ได้มอบคลิปขณะที่มีการสนทนาทางโทรศัพท์กับสีกา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้นให้รายการแล้ว

‘พระย้อย-สีกาตอง’ เปิดหน้าสู้แฉ ‘กาโตะ’ หลอกไปเขื่อนกลางดึกมีเพศสัมพันธ์!

สำหรับเรื่องราวในรายการ พระย้อย สีกาตอง และหมอปลา ได้พูดคุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง จากนั้น ทิดกาโตะ ก็ได้โทรฯเข้ามาในรายการและเล่าเรื่องราวทั้งหมดในมุมของตนเองให้สังคมรับรู้พร้อมยอมรับผิด และบอกเผลอใจไปเพราะอายุยังน้อยอีกด้วย

ทั้งนี้ส่วนหนึ่งระหว่างออกรายการ ช่วงแรก พระย้อย เผยกรณีถูกสังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องสีกาว่า “ที่ออกมาเพราะโดนขุดขึ้นมา เขาไปลากขุดมาทุกอย่างเลย ผมไม่เคยมีเรื่องสีกา ไม่เคยชอบสีกาตอง ถามว่ามีจีบหรือมีสัมพันธ์ไหม ไม่มีล้านเปอร์เซ็นต์ ข่าวมาจากไหนไม่รู้ เขาขุดมา ฝ่ายตรงข้ามพระรูปหนึ่งขุดมา ไปหาสิ ไปหาพระที่วัดนี้ๆ เอามาทุกอย่างเลยโยม ก็เลยตัดสินใจเปิดคลิปไปเลย ผมอโหสิกรรมให้ตองและทุกคน เพราะถ้าปรับปรุงและแก้ไขต่อไป เคยบอกโยมตองเขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ผมไม่มีเจตนา ไม่เคยโกรธหรืออิจฉาอะไรเลย”

ด้าน สีกาตอง เผยว่า “มีขัดแย้งในใจตองระหว่างถูกและผิด ตองอึดอัดใจมาก ปรึกษาใครไม่ได้ แต่พอตองตัดสินใจว่าจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผิดพลาดอะไรไป ไม่เสียใจเพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่ออกมาแฉเพราะรู้ว่ามันผิด แต่ขอทำให้ถูกต้อง รู้ตัวเองถูกด่าเยอะมากที่มีอะไรกับพระ แต่ที่ออกมาพูดเพราะอยากให้ถูกต้อง ไม่ทราบว่าทำกี่ครั้งแล้วและทำกับใครบ้าง แต่เรื่องที่บอกว่าเขาตีตัวออกห่าง มีแต่เขามาบอกว่าให้ห่าง ไม่ได้โกรธที่รักษาระยะห่างนะ แต่เวลาเขาโมโหขึ้นมา เขาชอบไล่ให้ไปบอกหมอปลาเลย เอาจริงๆไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาตีตัวออกห่างแล้วโกรธมาแฉ เลยมาปรึกษาหลวงพี่ย้อยและหมอปลา หมอปลาทราบก่อนหลวงพี่ย้อย ตองเหนื่อยแล้วจริงๆที่ต้องทนถูกด่า สังคมทุกอย่างมาว่าและด่าที่ตอง แต่ที่มีข่าวว่ามีฝั่งไหนไม่รู้สามแสนแล้วให้หยุดพูดจริงค่ะ รับค่ะ สามแสนหลังเซียร์รังสิต เขาจะให้เบอร์พ่อเลี้ยงไว้ใจได้ไว้ เขาบอกเดี๋ยวเขาเอาที่ไปจำนองแล้วเอาเงินมาให้ ตอนนี้เขาไม่ใช้โทรศัพท์แล้ว ไม่ต้องโทรฯ ให้ติดต่อพ่อคนนี้นะ นั่งรถไฟมาแล้วเจอกัน มีข้อแม้ว่าให้ตองปิดบัญชีธนาคารและลบไลน์ทิ้ง และเขาก็อัดวิดีโอไปด้วย ลบไลน์เก่าทิ้ง และเขาก็เอาสลิปกลับไปด้วย”

“ส่วนเรื่องทำให้พระย้อยเสียหาย ขอขมานะคะในสิ่งที่ตองทำผิดพลาดไป ทำไม่ดีกับหลวงพี่ย้อย ทุกอย่างที่ทำให้เกิดผลกระทบกับหลวงพี่ย้อย ให้หลวงพี่อโหสิกรรมตองด้วยค่ะ สุดท้ายก็ขอน้อมรับทุกคำด่านะคะ ว่าตองเลว ตองชั่วจริงๆ ตองขอโทษวงการพระพุทธศาสนา ขอโทษทุกๆฝ่าย ทุกคนที่ทำให้เดือดร้อนในเรื่องนี้ ไม่มีสติและขาดความยับยั้งชั่งใจของตองเอง ยอมรับว่าผิดค่ะ เรื่องที่ให้เขาโอนเงินเรื่อยๆจริงค่ะ เรื่องขอของด้วยก็จริงๆค่ะ หนูไม่ได้แบล็กเมล์ มันเป็นสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบ ในเมื่อไม่ให้ทำงานที่กรุงเทพฯ เขาพูดเองว่า 3 แสนถึง 5 แสน แต่เขาให้ 3 แสน ตองไม่ได้เอาเรื่องเงินมาเป็นเรื่องสำคัญ คุณเป็นผู้ชายพูดตรงๆ ไม่คบแล้วพูดได้เลย ไม่ใช่แทงกั๊กจะเอาหรือไม่เอา ไม่ใช่”

ฝั่ง หมอปลา เผยว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่สื่อหรือหมอปลาไปจับพระ แต่คนที่ให้ข้อมูลคือตองนะ เขาก็ยอมรับว่าเขาเลว ถ้าไม่ทำแบบนี้ กาโตะสึกไหม เรื่องจริงอะ ฟ้องมาก็ลองดิ ณ วันนี้แม้แต่พระย้อยหรือตองเองมาแจ้งเรื่องจริงโดนตรวจสอบ”

อย่างไรก็ตามระหว่างการดำเนินรายการ ทิดกาโตะ ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อชี้แจงในรายการ โดยเผยว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นเราเป็นฝ่ายถูกกระทำมาตั้งแต่ตน เราถูกหลอก เรื่องทิดพาดูเขื่อนอันนี้จริงๆ ยอมรับเราพลาดจริงๆ เพราะเราอายุยังน้อย ด้วยผู้หญิงมันยั่ว มันเย้ามันยวนเรา อยากจะพูดว่าตั้งแต่รอบแรกมาก็ถูกบังคับขู่เอาเงินมาตลอด เพื่อให้เรื่องต่อไป เขาบอกหลวงพี่ฉันมีหนี้นะ เราพลาดกันแล้วก็ต้องรับผิดชอบ ผมจะบอกว่าผมถูกแบล็กเมล์ จริงๆผมจะสึกอยู่แล้วปลายปีนี้ จะพูดว่าตั้งใจไว้นานแล้ว เพราะวัดยังไม่เสร็จ สงสารวัดมาก เราพลาดเราเผลอใจไป เพราะสังคมเข้าใจ แฟนคลับเขายังเข้าใจ เราไม่อยากออกสื่อ เพราะผู้หญิงเดี๋ยวดีเขาร้าย เขาใช้เงิน พอเราโอนไปเขาก็บอกยังมีค่านั้นค่านี้อีก หลายตังค์มากๆ แต่ต้องบอกก่อนว่าเงินส่วนตัวของพระกาโตะ ออกมามีเงินติดตัวแค่ 4 พันบาท เราพูดในพระไม่เหมาะสม มันแค้น”

“นี่ไม่ได้เป็นความโกรธแค้น เป็นการปกป้องตัวเองและพระศาสนาด้วย ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก ผมยังอ่อนต่อพระธรรมวินัยมาก สังคมรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง ผมอยากพูดบ้างว่าทำไมต้องโอนเงิน ต้องมาคุย ตอนเป็นพระพูดไม่ได้ ภาพลักษณ์ไม่สวยงาม ครั้งแรกผมพาไปดูเขื่อนตอนสี่ทุ่ม เรื่องเมื่อยฝ่ายหญิงกดหลังให้อันนี้ บอกแล้วผมยอมรับทุกอย่าง เรายังเด็กยังยับยั้งไม่อยู่ การันตีเลยว่าผมพลาดมาก แต่ก่อนหน้านี้จนพรรษา 1-2 ไม่มีเลย แต่มันมีสิ่งยั่วยุ ส่วนครั้งที่ 2 ที่มีสัมพันธ์กัน ดูจากคลิปผมรู้สึกถูกแบล็กเมล์ ผมเริ่มปฏิเสธตลอด เริ่มอ้างหมอปลาแล้ว เงินไม่มีให้แล้ว ผมก็รับผิดชอบให้ จ่ายให้ และขอเงินอีกเรื่อยๆ เราก็ให้ เพราะว่าเราพลาดพลั้งไปแล้ว หนึ่งเราเป็นวัยรุ่นและเขาพยายามมาหาตลอด หาวันว่างให้หน่อย เราก็พยายามจัดหาเวลาให้ แต่ไม่รู้ไปแล้วจะถามว่าหลงรักเขาไหมตอนเป็นพระ ไม่ครับ เราวัยรุ่น เราคึกคะนอง พอสึกแล้วพูดไม่กลัวคนว่ามาอัดผู้หญิง ผมจะเล่าต่อว่าหลังจากนั้นผู้หญิงบอกจะให้เรื่องจบไหม ขอเงินหนึ่งแสนบาทไหมเขาจะจบ ผมก็โอเค พอโอนไปแสนหนึ่งมันไม่จบ จากนั้นก็ขอเงินมาทำงานต่อที่กรุงเทพฯ เขาก็ขอเงินซื้อโน้ตบุ๊ก เขามีโรคประจำตัวต้องรักษาอยู่ ไม่มีงานทำ ให้ได้ใช้โชว์เพื่อน หลังจากโน้ตบุ๊ก ก็ขอทองและอื่นๆ มันมีความขัดแย้งเพราะเหมือนไม่ธรรมดาแล้ว”

ทิดกาโตะ เผยว่า “เรื่องมันไม่จบ เขาขอเรื่อยๆ ฝ่ายหญิงไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการจะอ้างหมอปลา ไม่เคยพูดว่าจะเลี้ยงตลอดและไม่ให้เขาไปทำงานที่กรุงเทพฯ ถามว่าเอาเงินทำบุญญาติโยมไปให้เขาไหม ไม่เคยเลยครับ แต่เป็นเงินทำบุญที่ผมไปหามาเอง เพราะความจริง เป็นเงินส่วนตัวของผมเลย ไม่เอาเงินวัดให้แน่นอน ไม่ทำครับ เงินสามแสนที่จ่ายไป คือเขาบอกว่าเริ่มมีคลิปเสียงแล้ว เรื่องเริ่มใหญ่ ฝ่ายหญิงโทรฯมาบอกว่า ตองต้องรักษาโรคไบโพลาร์ จำเป็นขอค่ารักษาและจบเพียงเท่านี้จริงๆ เขาเป็นฝ่ายเสนอมาว่าสามแสนบาท เรื่องชิงสึกก่อนจับสึก ผมไม่ได้ถูกจับสึกนะ ผมมาบอกหลวงพ่อจะลาสิกขานะ ทีนี้ทางผู้หญิงบอกว่าสามแสนก็ไม่จบ ผมแค่ขอคำปรึกษาหลวงพ่อเอง กาโตะก็คุยสันติวิธี กาโตะไม่ได้อยากรักษาการเจ้าอาวาส เรื่องปาราชิกไหม แล้วแต่สังคมเลย ผมยอมรับขนาดนี้ ผมพลาด ผมเผลอใจจริงๆ ยังขาดสติพอสมควรครับ กับพระย้อยเรื่องโกรธแค้นไหม ผมไม่รู้จักเลย พระอะไรหว่า หรือพระจะแกล้งเรา มีผู้หวังดีมาบอกผมให้ระวังตัวนะ”

ถามว่าต่อไปเอายังไง ผมอยากพูดให้ยุติเลย ว่าเรื่องราวเป็นแบบนี้จริงๆ วันนี้ของจริงแล้ว ไม่กลับไปคบกับเขาครับ (ยิ้ม) จริงๆคลิปเขาตั้งใจอัดตั้งนานแล้ว เขาตั้งใจแกล้งผม ไม่มีเรื่องแย่งแฟนคนอื่น แต่เรื่องการหลอกคนอื่นไหม ไม่มีเลย ผมพลาดรายนี้รายเดียวเลยครับ ผมเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ผมก็โอเคที่ได้คุย และปกป้องพระศาสนาเพราะเราก็ออกมาแล้ว คนมองหลายมุม”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากรายการโหนกระแส