เมื่อวันที่ 9 พ.ค. จากภาวะน้ำมันแพงและมีแนวโน้มขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของประชาชนทุกสาขาอาชีพเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาขนส่งและราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ตามท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดแทบทุกรายการ เพราะพ่อค้า แม่ค้า อ้างว่าค่าขนส่งสูงขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการรถดูดสิ่งปฏิกูลหลายรายที่ขับรถตระเวนหาลูกค้าเพื่อให้บริการดูดส้วมกลับตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ เพราะได้ค่าบริการเพียงครั้งละ 120 บาทเท่านั้น

นายอุทัย ศรีบุญลำ อายุ 62 ปี ผู้ประกอบการรถดูดสิ่งปฏิกูล กล่าวว่า ยึดอาชีพรถดูดสิ่งปฏิกูลเป็นอาชีพหลักมาประมาณ 10 ปี โดยจะขับรถตะเวนหาลูกค้าไปตามหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ ต.คลองขาม ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการ โดยชำระค่าใบอนุญาตปีละ 5,000 บาท ได้ลูกค้าวันละ 5-10 ราย คิดค่าบริการครั้งละ 100 บาท ทั้งนี้ มีรายจ่ายคือค่าแรงคนงาน 2 คน คนละ 300 บาทต่อวัน น้ำมันวันละ 500 บาท รายจ่ายเฉลี่ยวันละ 1,100 บาท บางวันก็ไม่ได้ลูกค้า เฉลี่ยรายได้พอเลี้ยงครอบครัว แต่พอมาถึงปีนี้ที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น ขณะที่มีผู้ประกอบการอาชีพเดียวกันในพื้นที่อีก 2 ราย จึงต้องขยันวิ่งหาลูกค้า และจุดทิ้งสิ่งปฏิกูลที่ อบต.คลองขาม กำหนดให้ก็ระยะทางไกลทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น

นายอุทัย กล่าวอีกว่า เมื่อประสบปัญหาราคาน้ำมันแพงทาง อบต.คลองขาม ที่เป็นผู้ให้อนุญาตประกอบการดูดสิ่งปฏิกูลในพื้นที่ได้เพิ่มอัตราค่าบริการจากเดิม 100 บาท เป็น 120 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่ใจจริงแล้วตนและผู้ประกอบการทุกคนก็อยากได้เพิ่มกว่านี้ แต่ด้วยความเห็นอกเห็นใจชาวบ้านที่เป็นผู้รับบริการ ซึ่งทุกครอบครัวต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูง ราคาขายผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ จะเพิ่มราคาก็ไม่ได้ จึงอยู่ในสภาพยอมเจ็บทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายกันต่อไป อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงด้วย เพราะผู้ประกอบการรถดูดสิ่งปฏิกูลและประชาชนทุกสาขาอาชีพเดือดร้อนมาก ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันแพงดังกล่าว