พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการยุทศาสตร์พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่ผ่านมา ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ศอ.บต. ได้นำเสนอให้มีการสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิให้กับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ จ.ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส และ อ.จะนะ, อ.เทพา, อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย เพื่อออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินในปี 2546-2570 ให้ได้ 90,000 แปลง หรือเฉลี่ยปีละ 15,000 แปลง ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ศอ.บต. ได้ดำเนินการร่วมกับกรมที่ดินทำการสำรวจออกเอกสารสิทธิให้ประชาชนใน 3 จังหวัด 4 อำเภอของ จ.สงขลา และออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินให้กับประชาชนไปแล้ว 39,391 แปลง เนื้อที่ 161,619 ไร่ มีผู้ได้เอกสารสิทธิไปแล้ว 60,392 คน การที่ ศอ.บต. ขอให้ กพต.ดำเนินการสำรวจและออกเอกสารสิทธิในลักษณะนี้ เพราะหากให้กรมที่ดินดำเนินการตามปกติ จะไม่สามารถทำได้รวดเร็วและทำให้เกิดการคั่งค้างของการออกเอกสารสิทธิ ซึ่ง กพต.ได้ผ่านความเห็นชอบตามที่ ศอ.บต.ได้เสนอไปแล้ว 

เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าว่าต่อไปว่า ปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ คือที่ดินของรายย่อยและผู้ครอบครองทำกินเป็นคนยากจน เข้าไปถึงขั้นตอนของระเบียบราชการ มีที่ดินทำกินแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งในการออกเอกสารสิทธิต้องมีการสำรวจรายละเอียดในการครอบครองเพื่อที่จะสามารถออกเอกสารสิทธิให้ถูกต้อง เรื่องที่ดินทำกินของคนในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่รัฐมีความล่าช้าในการสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิ สร้างความไม่พอใจกับคนในพื้นที่และนำมาเป็นข้อโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด การที่ ศอ.บต. เข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อลดเงื่อนไขของความไม่พอใจลดความเหลี่อมล้ำ และที่สำคัญ การที่ชาวบ้านได้เอกสารสิทธิในที่ทำกิน เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว เป็นหลักประกันและแหล่งทุนในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัด 4 อำเภอของจ.สงขลา ถูกประกาศให้เป็นเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษ ดังนั้นผู้ที่ถือครองที่ดิน จึงควรที่จะมีโอกาสที่จะต้องมีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน เพื่อที่จะมีโอกาสในการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว