นายปองธรรม อินทร์ไทร หัวหน้าฝ่ายอำนวยการและพัฒนาธุรกิจ องค์การค้าของ สกสค. กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้มีการปิดตัวชั่วคราวของโรงเรียน ส่งผลให้นักเรียนจำนวนมากเผชิญกับภาวะถดถอยทางการศึกษา เกิดช่องว่างทางความรู้ ทักษะ และพัฒนาการตามช่วงอายุ ซึ่ง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยแนวทางการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อขับเคลื่อนการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2565 ซึ่งกำลังจะเปิดภาคเรียนช่วงวันที่ 17 พ.ค.นี้ ได้แก่ การเสริมสร้างความรู้ การสร้างทักษะที่เข้มข้นและการส่งเสริมทักษะชีวิต หรือทักษะทางสังคม โดยตั้งใจที่จะเร่งฟื้นฟูการเรียนรู้ที่สูญเสียไป ให้กลับคืนมาอย่างเร็วที่สุด

นายปองธรรมกล่าวว่า องค์การค้าของ สกสค. จึงร่วมกับ บริษัท เจเนซิส มีเดียคอม จำกัด ผลักดัน ‘dbook’ แพลตฟอร์มการเรียนการสอน แบบ 4 อิน 1 ออกสู่ตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสให้นักเรียนที่ประสบปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ได้เรียนรู้อย่างอิสระในแบบที่ตนเองต้องการ และแบบเฉพาะรายบุคคล เสริมกับการเรียนรู้ในห้องเรียนในปีการศึกษานี้

ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม ‘dbook’ ประกอบด้วยทรัพยากรทางการศึกษาอื่นๆ เช่น วิดีโอ บทเรียนดิจิทัล คลังภาพ คลังเสียง เกมการศึกษา เป็นต้น และคลังโมเดลการเรียนรู้ 3D/VR ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมากกว่า 1,200 บทเรียน ที่จะสอนและอธิบายถึงคอนเซ็ปต์ที่ซับซ้อนและยากให้เข้าใจง่ายขึ้นผ่านภาพ 3 มิติ โดยจะเชื่อมไปสู่โลกแห่งอนาคตด้วยการเปิดประสบการณ์การ Virtual Reality (VR) สร้างภาวะการเรียนรู้ให้นักเรียนก้าวเข้าสู่โลกของเมตาเวิร์ส หรือโลกเสมือนจริง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในโลกการศึกษา

นอกจากนี้ dbook ยังสนับสนุนการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ เกิดแรงจูงใจในการอยากรู้อยากเห็นและสร้างความสนุกสนาน เน้นการเรียนรู้ทางด้านภาษา โดยโมเดล 3D/VR สามารถใช้งานได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน ช่วยดึงศักยภาพของผู้เรียนออกมาได้อย่างมากที่สุด สำหรับสถาบันการศึกษา ผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dbook.in.th