เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ได้รับการประสานขอกำลังชุดปะดาน้ำเข้าช่วยเหลือกู้รถเก๋งที่เกิดอุบัติเหตุพุ่งตกลงในแม่น้ำสวี อ.สวี จ.ชุมพร จึงสั่งการให้หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยทางน้ำ สายชล เขตหลังสวน ร่วมกับชุดกู้ภัยทางน้ำของเทศบาลตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จัดกำลังพร้อมอุปกรณ์เข้าทำการช่วยเหลือ โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำสวี พบบรรดาไทยมุงยืนอออยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำสวี บางรายพูดกันว่าจะรอดูเลขทะเบียนรถเพื่อนำไปซื้อหวยเสี่ยงโชค

หลังชุดปะดาน้ำลงไปค้นหาในแม่น้ำสวีพบรถยนต์คันดังกล่าวจมอยู่กลางน้ำ ห่างจากฝั่งประมาณ 30 เมตร ในสภาพหงายท้องจึงได้ใช้รถยกช่วยกันน้ำขึ้นมา ใช้เวลากว่า 4 ชม. ก่อนจะมีเสียงชาวบ้านยินดีเฮลั่น หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำป้ายทะเบียน ฌช 954 กรุงเทพมหานคร ขึ้นรถมายกโชว์ให้บรรดาไทยมุงได้ถ่ายรูปเอาไปซื้อหวยงวดวันที่ 16 พ.ค.

นายสมศักดิ์ คงประจำ อายุ 49 ปี ญาติเจ้ารถเดินทางมาดูเหตุการณ์ เปิดเผยว่า รถเก๋งที่จมน้ำเป็นของหลานภรรยา ยี่ห้อนิสสัน สีขาว รุ่นทีด้า หมายเลขทะเบียน ฌช 954 กรุงเทพมหานคร ส่วนคนที่ขับรถคือ นายไพโรจน์ ตรังคสังข์ อายุ 43 ปี เป็นคนกรุงเทพฯ ที่มาร่วมงานศพยายของหลานภรรยา โดยเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ประมาณ 4 ทุ่มเศษ นายไพโรจน์ ได้นั่งดื่มสุราอยู่ในงานก่อนจะขอตัวกลับไปนอนที่ห้องพัก จากนั้นไม่นายไพโรจน์ ได้โทรมาหาหลานชาย และบอกว่า ขับรถตกน้ำ และทุบกระจกออกมาได้ โดยมีชาวบ้านช่วยเหลือนำขึ้นฝั่งปลอดภัย

ต่อมานายไพโรจน์ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อนเพื่อดูสภาพรถที่กู้ขึ้นมาได้ โดยรถมีสภาพยับเยิน กันชนหน้าหลุดลอยน้ำไปไกลเกือบ 100 เมตร กระโปรงหน้าเปิด กระจกประตูด้านฝั่งซ้ายลดลงมาครึ่งบาน ประตูหลังรถเปิด จากนั้นนายไพโรจน์ก็เดินมายังกลุ่มชาวบ้านที่ช่วยเหลือตนเองเมื่อคืนพร้อมยกมือกราบไหว้และกล่าวขอบคุณทุกคน

นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุตนเองได้ออกจากที่พักเพื่อจะกลับไปที่งานศพ แต่บังเอิญขับเลยจุดยูเทิร์นเล็กน้อยแต่ไม่กล้าจอดและถอยเพราะกลัวจะถูกเจ้าถิ่นต่อว่า เลยขับต่อเพื่อจะมากลับรถใต้สะพาน แต่ด้วยความไม่ชินทาง เห็นแท่งปูนกั้นขอบทางเปิด จึงก้มมองดูจีพีเอสก็นึกว่าต้องเข้าไปใช้ช่องกลับรถอีกช่อง แต่ไม่ใช่ รถกลับพุ่งตกลงในแม่น้ำดังกล่าว และขอยืนยันว่าตนเองไม่ได้เมา

“พอรู้ว่ารถพุ่งตกลงในน้ำแล้วก็รีบกดกระจก แต่เปิดได้ครึ่งเดียว ตนเองจึงได้พยายามหนีตายมุดกระจกอย่างทุลักทุเลจนออกมาได้ และลอยคอมาเกาะกิ่งไม้ ซึ่งตะคริวเริ่มจะจับที่แขนขา พอเหลือบเห็นมีคนฉายแสงไฟมาทางแม่น้ำจึงรวบรวมกำลังตะโกนขอความช่วยเหลือ และนับว่าเป็นความโชคดีของตนที่ชาวบ้านได้มาเห็นและมาช่วยจนตนเองรอดดังปาฏิหาริย์ ส่วนพระที่ห้อยติดคอตลอดนั้นเป็นท้าวเวสสุวรรณ