เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ปราสาทภูมิโปน ต.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ชาวบ้านต่างรวมตัวกันมามุงดูดอกลำเจียก ที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านต่างวิภาควิจารณ์กันต่างๆ นานา เนื่องจากในตำนานที่เล่าขานกันมาว่าต้นลำเจียกที่ปราสาทภูมิโปนแห่งนี้ ได้ถูกสั่งเสียจาก พระนางศรีจันทรา (เนียง-ด็อฮ-ธม หรือแปลได้ว่า สาวผู้มีหน้าอกที่งาม) ซึ่งเป็นพระธิดาแห่งนครเจนละ ที่ได้เดินทางมาหลบภัยที่ปราสาทภูมิโปนแห่งนี้ ซึ่งก่อนที่พระนางจะจากไป ได้ปลูกต้นลำเจียกเพื่อเป็นตัวแทนของตัวเอง และอธิษฐานไว้กับต้นลำเจียกว่า หากตัวเองไม่ได้กลับมา ณ ที่แห่งนี้ ก็อย่าได้ออกดอกอีกเลย หากได้กลับมาก็ขอให้ออกดอก

โดยชาวบ้านที่พบเห็นว่ามีดอกลำเจียกโผล่ออกมาต่างแปลกใจ ซึ่งตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีใครได้พบเห็นต้นลำเจียกแห่งปราสาทภูมิโปนนี้ออกดอกเลย แต่ต้นลำเจียกที่อื่นในหมู่บ้านกลับออกดอกเป็นปกติทุกปี ชาวบ้านจึงได้นำดอกไม้ ธูป เทียน มาไหว้บูชา พร้อมขับไล่โรคโควิดนี้ไปด้วย และได้เดินทางไปไหว้ศาลโบราณ ซึ่งเคยเป็นระบบชลประทานโดยรอบองค์ปราสาทในยุคนั้น โดยที่สระโบราณแห่งนี้น้ำไม่เคยแห้งเลย และศาลแห่งนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ พร้อมได้บอกกล่าว โดยที่ชาวบ้านถือว่า ปีนี้ต้นลำเจียกออกดอกถือว่าเป็นสิ่งที่ดี จึงถือโอกาสขอเลขเด็ดในคืนวันโกน หรือคืนก่อนวันพระ โดยการจุดธูปเสี่ยงทาย หรือธูปเสี่ยงโชค ปรากฏเลขที่ได้มาคือ 155 โดยลักษณะธูปแตกร้าวหลายคนจึงตีเลยไปต่างๆนานา โดยมี 755, 955, 155

โดยปราสาทภูโปนแห่งนี้มีอายุราว 1,500 ปี ซึ่งอยู่ในยุคสมัยอาณาจักรเจนละ ที่เกิดขึ้นก่อนนครวัด นครธม ไม่น้อยกว่า 4-500 ปี ซึ่งทางกรมศิลป์ได้ยกให้เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

นายพิชัย สิงชัย ข้าราชการบำนาญ อายุ 71 ปี กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาตนไม่เคยเห็นต้นลำเจียกนี้ออกดอกเลย ซึ่งในตำนานได้บอกไว้ว่า หลังจากเมืองนี้เสียแก่ข้าศึก พระนางศรีจันทรา และไพร่พลทั้งหลายถูกกวาดต้อน โดยก่อนที่พระนางศรีจันทราได้ออกจากเมืองนี้ไป ก็ได้มาอธิษฐานกับต้นลำเจียกที่สระลำเจียกในปราสาทภูมิโปนแห่งนี้ว่า หากนางไม่ได้กลับมา ขอให้ลำเจียกที่สระ อย่าได้ออกดอก แต่หากวันในนางได้กลับมาก็ขอให้ต้นลำเจียกนี้ออกดอก และหลังจากนั้นชาวบ้านก็ไม่มีใครเคยเห็นดอกอีกเลย