ที่ศาลาว่าการ กทม. เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 09.00 น. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินการเรื่องร้องเรียน โดยระบบทราฟฟี่ฟองดูร์ (Traffy Fondue) มีนายวสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยประจำศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) คณะวิทยากร  และผู้แทนสำนักงานเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายศานนท์ กล่าวว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาโครงสร้างของเมืองในระดับเส้นเลือดฝอยซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องเจอในทุก ๆ วัน เช่น ฟุตปาธไม่เรียบ แสงสว่างไม่เพียงพอ ขยะไม่มีคนเก็บ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ผ่านแพลตฟอร์ม ทราฟฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) เพื่อให้ประชาชนร่วมรายงานปัญหาที่พบในพื้นที่ของกรุงเทพฯ และหน่วยงานต่าง ๆ สามารถรับทราบข้อร้องเรียนได้ทันที ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้วสามารถแจ้งผลกลับไปยังประชาชนให้รับทราบได้โดยตรงและรวดเร็ว การประชุมวันนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจการดำเนินการให้กับหน่วยงาน กทม. ตามแนวทางดังกล่าว โดยผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้ปฏิบัติงานในการรับเรื่องร้องเรียนจากทุกสำนัก และทุกสำนักงานเขต รวมจำนวน 160 คน 

สำหรับแพลตฟอร์ม “ทราฟฟี่ฟองดูว์” (Traffy Fondue) เป็นแพลตฟอร์มที่จัดทำขึ้น เพื่อสื่อสารปัญหาของเมืองระหว่างประชาชนและหน่วยงานที่รับผิดชอบ พัฒนาระบบโดยทีมนักวิจัยประจำศูนย์เนคเทค สวทช. และเปิดให้ใช้งานตั้งแต่เดือน มิ.ย.2561 โดยประชาชนสามารถแจ้งปัญหาที่พบไปให้ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความสะอาด ปัญหาทางเท้า ไฟส่องสว่าง หรือถนนชำรุด และการแจ้งปัญหาต้องมีข้อมูลเพียงพอให้หน่วยงานสามารถดำเนินการได้ทันที เช่น มีภาพถ่าย และตำแหน่งบนแผนที่ ขณะเดียวกันหน่วยงานที่รับผิดชอบก็สามารถให้ข้อมูลและอัพเดทสถานการณ์การแก้ไขปัญหาสื่อสารกลับมาให้แก่ประชาชนได้รับทราบ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังมีระบบบริหารจัดการและติดตามปัญหา บริการข้อมูลทางสถิติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนงบประมาณและกำลังคน ซึ่งหน่วยงานของรัฐและเอกชนสามารถตั้งกลุ่มรับแจ้งและบริหารจัดการปัญหาของตนเองได้อีกด้วย

“เราเป็นเจ้าของพื้นที่ ประชาชนเป็นเจ้านายเรา เราต้องรับทุกเรื่องที่เป็นปัญหาของทุกท่าน ซึ่งเป็นปัญหาของเรามากกว่าซึ่งเรายังจัดการได้ไม่ดี ต้องไปประสานงานให้ถูกต้อง และเร่งดำเนินการให้ได้ เราแก้วันนี้ไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ความตั้งใจเราส่งต่อได้ เราอยากทำให้มันดีขึ้นจริง ๆ” นายศานนท์ กล่าว

สำหรับสถานะการดำเนินการระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.-10 มิ.ย. 65 พบว่า ทุกสำนักงานเขตได้มีการเข้าระบบครบ 100% โดยมีการศึกษาการทำงานของระบบด้วยตนเอง และสอบถามผ่านทางไลน์/โทรศัพท์ จากจำนวนเรื่องร้องเรียนเริ่มต้น 1,300 เรื่อง ปัจจุบัน 17,811 เรื่อง เพิ่มขึ้น 13 เท่า โดยในวันที่ 8 มิ.ย. 65 รับเรื่องสูงสุด 2,300 เรื่อง เบื้องต้นพบว่ามีเสียงชื่นชมจากประชาชนในการดำเนินงานแก้ไข โดยมีการแชร์เรื่องราวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ จำนวนมาก

นายศานนท์  กล่าวอีกว่า ปัญหาการใช้งาน มี 3 เรื่อง คือ 1. การประสานงานกับหน่วยงานภายนอก ซึ่งต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นและแยกหมวดหมู่ให้ชัดเจน 2. เรื่องระยะเวลาดำเนินการ ซึ่งได้เน้นย้ำว่าระยะเวลาดำเนินการทุกขั้นตอนต้องเร็วขึ้น 3.เรื่องทุจริต บางเรื่องมีการระบุข้อมูลส่วนบุคคล จึงต้องแยกหมวดออกมา และเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“เราจะดูแลเส้นเลือดฝอยไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ไหน คนที่รู้ปัญหาดีที่สุดก็คือประชาชน ผมว่าเจ้าหน้าที่มีหน้าที่จัดหาเครื่องมือ น้อมรับนำไปแก้ไข รวบรวมข้อมูลปัญหาและความคิดเห็นที่ประชาชนแจ้งเข้ามา ผมว่าเป็นวิธีการที่ไม่ได้ใช้แค่เรื่องนี้ ใช้ได้กับทุกเรื่อง ทุกนโยบาย“ นายศานนท์ กล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างการอบรมเจ้าหน้านี้ นายชัชชาติ ได้โทรศัพท์ออนไลน์ผ่านระบบทางไกลมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมประชุมด้วย โดยกล่าวว่า การนำระบบทราฟฟี่ฟองดูว์มาใช้ในการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน นับเป็นการปฏิวัติรูปแบบการให้บริการของระบบราชการ ในอนาคตรูปแบบการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะมีมากขึ้น ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น และเหนื่อยน้อยลงด้วย

“เมื่อก่อนประชาชนมีเรื่องร้องเรียนต้องมาหาเรา ติดตามเรื่องก็ยาก แต่พอเทคโนโลยีดีขึ้น ก็จะเปลี่ยนเป็นระบบแพลตฟอร์มซึ่งเชื่อมตรงกลาง ทุกคนมาสามารถเข้ามาดูเรื่องได้ ทราฟฟี่ฟองดูว์ก็เป็นแพลตฟอร์มอย่างหนึ่ง ที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่เขตสามารถเข้ามาดูได้เลย ไม่ต้องรอผู้ว่าฯ ส่งเรื่องไปปลัด รอปลัด ส่งเรื่องไปรองปลัด ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลา ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว

สำหรับนโยบายรายงานปัญหาโดยประชาชน แก้ปัญหาโดย กทม.ผ่านแพลตฟอร์มทราฟฟี่ฟองดูว์ ถือเป็น 1 ในนโยบาย 216 ข้อ ด้านบริหารจัดการดี ซึ่งระบบในการรายงานปัญหาของ กทม.ที่ใช้งานสะดวก สามารถแจ้งและติดตามการแก้ไขปัญหาได้ และได้รับการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ที่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชนจริง ทั้งนี้ กทม.จะต่อยอดระบบการรายงานปัญหาออนไลน์ทราฟฟี่ฟองดูว์ เพื่อให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการช่วยแจ้งปัญหาต่าง ๆ ตั้งแต่การแจ้งปัญหา การติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานของ กทม. และการดูสถิติการแจ้งเรื่องร้องเรียนทั่วกรุงเทพฯ โดยขยายผลเปิดรับประเด็นทางสังคมต่าง ๆ ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในอนาคตข้างหน้าจะมีการเพิ่มหัวข้อต่าง ๆ อาทิ “ส่งต่อ” และ “ร่วมแก้ไข” ซึ่งการขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอก การแสดง “ระยะเวลาดำเนินการ” และเพิ่มประเภทเรื่องร้องเรียน “ทุจริต” ขึ้นมาอีกด้วย หัวใจของความสำเร็จของระบบนี้ คือ ความร่วมมือของประชาชน และความตั้งใจจริงของภาครัฐในการแก้ปัญหา การพัฒนาให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน ร่วมมือกันตั้งแต่วันนี้เพื่อกรุงเทพฯ ที่ดีของเราทุกคน