สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่านายกรัฐมนตรีแอนโธนีส อัลบานีส แถลงเมื่อวันเสาร์ ว่าออสเตรเลียบรรลุข้อตกลงประนีประนอมมูลค่า 555 ล้านยูโร (ราว 20,267.53 ล้านบาท) กับกลุ่มบริษัทนาวัล ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านการต่อเรือของฝรั่งเศส โดยเฉพาะเรือรบและเรือดำน้ำ เพื่อยุติข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว กรณีออสเตรเลียเข้าร่วมกติกาความร่วมมือไตรภาคี “ออคัส” กับสหรัฐและสหราชอาณาจักร


หลังจากนั้น รัฐบาลแคนเบอร์รายกเลิกข้อตกลงกับฝรั่งเศส ที่เป็นการผลิต “กองเรือดำน้ำ” ขับเคลื่อนด้วยพลังงานดีเซล มูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.38 ล้านล้านบาท) ซึ่งลงนามร่วมกันเมื่อปี 2559 และมีกำหนดส่งมอบเรือดำน้ำลำแรกจากทั้งหมด 12 ลำ คือภายในปี 2570 เพื่อไปรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากสหรัฐและสหราชอาณาจักรแทน เรียกเสียงประณามอย่างหนักจากฝรั่งเศส ถึงขั้นเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐและออสเตรเลียให้เดินทางกลับ “นานระยะหนึ่ง”


ทั้งนี้ อัลบานีสเชื่อมั่นว่า การประนีประนอมดังกล่าวจะช่วย “รีเซต” หรือฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับออสเตรเลียได้อีกครั้ง และรัฐบาลแคนเบอร์รามีความชื่นชมและนับถือ ต่อการแสดงบทบาทอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์ของฝรั่งเศส ในการร่วมขับเคลื่อนเสรีภาพ และการเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES