“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทีมอันดับ 111 ของโลก จะลงสนามพบ อุซเบกิสถาน เบอร์ 83 โลก ในศึกเอเชี่ยน คัพ 2023 รอบคัดเลือก กลุ่ม C นัดสุดท้าย ที่มาร์กาซีย์ สเตเดี้ยม เมืองนามังกัน ประเทศอุซเบกิสถาน ในวันที่ 14 มิ.ย.65 เวลาไทย 22.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 32 และ AIS PLAY

ทั้ง 2 ทีม มี 6 คะแนนจากการชนะ 2 เกมแรก อุซเบฯ ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้ทั้งคู่ก็มีโอกาสสูงจะกอดคอกันเข้ารอบ และอาจจะการันตีตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม ดูผลกลุ่ม B ปาเลสไตน์ พบ ฟิลิปปินส์ ที่ลงเล่นเวลาไทย 11.30 น. หาก ปาเลสไตน์ชนะหรือเสมอ ทำให้ทั้งไทยและอุซเบกิสถาน ตีตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายทันทีในฐานะแชมป์กลุ่มกับอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 5 จาก 6 ทีม

ความเคลื่อนไหวทีมชาติไทย เมื่อ 13 มิ.ย.65 มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่ดินาโม สเตเดี้ยม ซึ่ง มาโน กล่าวว่า จุดสำคัญคือไทยอาจจะเข้ารอบไปก่อนแล้วเมื่อรู้ผล ปาเลสไตน์ กับ ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะส่งผลต่อการเตรียมตัวเช่นกัน ถ้าทีมไทย และอุซเบกิสถาน เข้ารอบก่อนจะทำให้เล่นกันแบบไม่กดดัน เพราะเป้าหมายสำเร็จแล้ว สามารถสนุกกับเกมได้อย่างเต็มที่

มาโน กล่าวว่า ได้เข้าไปดูทั้ง 2 เกมที่อุซเบกิสถานลงสนาม ทีมมีผู้เล่นมีประสบการณ์และมีผู้เล่นยอดเยี่ยม หลายคนเล่นในยุโรป รวมถึงลีกที่แข็งแกร่งอย่าง กาตาร์ หรือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แต่ทีมชาติไทยลงสนามเพื่อ 3 คะแนน ไม่เคยลงไปเพื่อ 1 หรือ 0 คะแนน

“การเตรียมตัวจะต่างไปจาก 2 นัดแรก เพราะอุซเบกิสถานเล่นในบ้าน มีแฟนบอลหนุนหลัง แต่ยังเชื่อมั่นในความสามารถลูกทีมว่าสามารถสู้ได้ และจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด” มาโน กล่าว

สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกทีมชาติไทย คาดว่ายึดระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, เซ็นเตอร์ วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พรรษา เหมวิบูลย์, แบ๊กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน, แบ๊กขวา ทริสตอง โด, กองกลาง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สารัช อยู่เย็น, ตัวรุกฝั่งซ้าย บดินทร์ ผาลา, ขวา ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ โดย ธีรศิลป์ แดงดา เป็นหัวหอก.