เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่เหล่าทาสแมวให้ความสนใจกันยกใหญ่หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งใช้ชื่อว่า @Ariya Chanmanin ได้แชร์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองหมาดๆ ว่า “อยากแชร์ประสบการณ์อันตรายที่เราคาดไม่ถึงค่ะ น้องกินเม็ดทุเรียนเข้าไป ซึ่งปกติแล้ววากิวเป็นแมวที่ชอบกินทุเรียนมาก แต่เราก็ไม่ได้ให้น้องกินเยอะก็ให้ชิ้นเล็กๆ กับเลียที่เปื้อนมือเท่านั้น”

ซึ่งผู้โพสต์ยังบอกต่ออีกว่า “2–3 วันก่อนตอนกลางคืน เรากินทุเรียนเสร็จก็ทิ้งเม็ดใส่ถุงขยะไว้ แล้วน้องน่าจะไปคุ้ยในถุงขยะมากิน ตอนเช้ามาวากิวมีอาการอาเจียน แล้วมีเศษเม็ดทุเรียนออกมา ตอนแรกเราคิดว่าเม็ดทุเรียนอาจติดคอน้องเลยอาเจียน แต่น้องอาเจียนไม่หยุดเป็น 10 ครั้งภายในเวลา 1-2 ชม. เราเลยรีบพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์ เอกซเรย์ดูไม่เห็นอะไร แต่หมอให้แอดมิท รออัลตราซาวด์ตอนเช้า ซึ่งจะมีหมอเฉพาะทางมา พอซักพักน้องมีอาการน้ำลายฟูมปาก คุณหมอเลยขอตรวจเลือดพบว่าค่าตับของน้องกระโดดขึ้นสูงหลายเท่ากว่าปกติ คุณหมอเลยแจ้งว่าเกี่ยวกับสารพิษ และค้นพบว่าเม็ดทุเรียนดิบนั้นมีไซยาไนด์ ซึ่งเป็นสารพิษอันตราย คุณหมอเลยให้ยาขับสารพิษ และยาบำรุงตับให้น้อง ขอบคุณคุณหมอมากที่เอะใจเพราะทีแรกเราคิดว่าเม็ดทุเรียนติดคอน้องเท่านั้น ตอนนี้น้องปลอดภัยกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วค่ะ แอดมิทไป 1 คืน อิแม่เข็ดทุเรียนไปเลยค่ะ”

โดยภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เหล่าทาสแมวเข้ามาคอมเมนต์แลกเปลี่อนประสบการณ์ บ้างก็เข้ามาแนะนำเพื่อเป็นความรู้สำหรับทาสมือใหม่ และแห่แท็กคนรอบตัวที่เลี้ยงน้องแมวบอกต่อถึงข้อมูลนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งมหาวิทยาลัยมหิดล คณะเภสัชศาสตร์ เคยระบุว่า “ไซยาไนด์เป็นสารพิษที่พบได้ทั่วไปในพืชหลากหลายชนิด แอปเปิล แอปริคอท พีช เชอร์รี่ มันสำปะหลัง หากรับประทานดิบๆ ถ้าได้รับสารตัวนี้ปริมาณมากๆ จะทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกน้ำลายฟูมปากชักและเสียชีวิตได้”

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ @Ariya Chanmanin, @มหาวิทยาลัยมหิดล คณะเภสัชศาสตร์