เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ร.ต.อ.สุทิน ศรีอ่อน รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลักเงินตู้บริจาคบนศาลาการเปรียญวัดโคกกระต่าย หมู่ 1 ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ที่เกิดเหตุพบเศษกระจกแตกร่วงอยู่กับพื้น มีเงินตกหล่น 20 บาท ส่วนกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ลักษณะเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ใส่เสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ ขี่ จยย.ฮอนด้า เวฟ 100 สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันกันน็อกสีขาว เข้ามาก่อเหตุชนิดไม่กลัวบาปกรรม พอได้เงินจากตู้บริจาคแล้วก็เดินลงมาขี่ จยย.

จังหวะนั้น พระชาญณรงค์ กตสาโรอายุ 53 ปี รักษาการ เจ้าอาวาสวัดโคกกระต่าย เห็นคนร้ายกำลังหลบหนีจึงเข้าขัดขวางและพยายามเตือนสติว่าการขโมยทรัพย์สินของวัดเป็นบาป แต่คนร้ายกลับไม่ฟัง จึงเกิดการดวลหมัดระหว่างพระกับคนร้ายขึ้น โดยฝ่ายพระมีเชิงมวยที่ดีกว่า ประเคนหมัดและแข้งไปหลายครั้ง ขณะที่คนร้ายพยายามขี่ จยย.หนีแต่ก็ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามระหว่างที่กำลังต่อสู้นั้น ลุงกรรมการวัด วัย 70 ปี ได้เข้ามาใช้ไม้กวาดช่วยไล่ตีคนร้ายด้วย จนฝ่ายคนร้ายต้องทิ้ง จยย.และกระเป๋าเผ่นหนีไปทันที

จากการสอบถาม พระชาญณรงค์ ให้การอ้างว่า อาตมาได้ยินเสียงกระจกแตก พอเดินไปดูก็พบคนร้ายกำลังทุบตู้บริจาคก่อนหยิบเงินใส่กระเป๋า พอคนร้ายเห็นอาตมาก็รีบวิ่งไปขี่ จยย.หลบหนี แต่ปรากฏว่าอาตมาตามมาทัน พยายามขอให้คืนเงินแต่อีกฝ่ายไม่ยอม จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น มีการยื้อแย่งรถกันอยู่สักพัก ก่อนที่กรรมการวัดจะเข้ามาช่วย ทำให้คนร้ายวิ่งหนีทิ้งของกลางเอาไว้ดังกล่าว ตรวจสอบกระเป๋าของคนร้ายพบสร้อยคอทองคำ 2 เส้น หนัก 2 สลึง เชื่อว่าอาจจะไปลักขโมยมาจากคนอื่นก็เป็นได้ ส่วนเงินในกระเป๋ามีประมาณ 800 บาท ซึ่งเป็นเงินจากตู้บริจาค โดยของกลางทั้งหมดได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิหารแดง ได้กระจายกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายตามลักษณะการแต่งตัว จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ขณะที่เดินหลบหนีอยู่ริมถนนสุวรรณศร ใกล้เคียงปั๊มบางจาก มุ่งหน้า ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี ห่างจากวัดที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. ทราบชื่อ นายวินัย (สงวนนามสกุล) หรือ ต้น อายุ 38 ปี พักอาศัยใน ต.หินกอง อ.หนองแค สอบสวนให้การรับสารภาพอ้างว่า เป็นผู้ก่อเหตุทุบตู้บริจาคขโมยเงินไป 800 บาทจริง ส่วนเรื่องสร้อยนั้นยังให้การวกวนไปมา เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะไว้ก่อน พร้อมส่งตัวไปตรวจหาสารเสพติด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.