จากกรณีที่เพจกระทรวงพลังงาน ได้แชร์โพสต์ของ เพจกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ที่ระบุว่า #รวมพลังคนไทยลดใช้พลังงานหาร 2 เตามหาเศรษฐี ร้อนสูง ประหยัดถ่าน ทนทาน ช่วยประหยัดเงิน วันนี้ พพ ขอนำเสนอ เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง หรือ เตาซุปเปอร์อั้งโล่ ซึ่งเป็นเตาที่พัฒนาขึ้นมาทดแทนเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนมากกว่าเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดถึง 29% ถ้าหากตามบ้านเรือนหันมาใช้เตามหาเศรษฐีจะสามารถประหยัดไม้ ฟืนและถ่านที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึง 500-600 บาท/ครัวเรือน/ปี และช่วยลดการใช้แก๊ส LPG ในครัวเรือน ในลักษณะที่เชิญชวนประชาชนมาใช้เตาถ่าน เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน โดยการใช้ถ่ายลดการใช้แก๊ส ในการประกอบอาหาร โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ร้านอาหารตามสั่ง ในพื้นที่ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สอบถามเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ที่ต้องทำอาหารจานด่วนแทบจะทั้งวัน กล่าวว่า ตามที่กระทรวงพลังงานแนะนำให้ใช้เตาถ่านนั้น คงไม่ได้ เนื่องจากเร่งความร้อนไม่ได้ ไม่ใช่ยุคเก่านะที่จะมาใช้เตาถ่าน โดยที่ช่วงเย็นลูกค้าเข้ามาร้านเยอะ ถ้าเป็นเตาถ่าน เราไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ กว่าจะประกอบอาหารเสร็จลูกค้าหายหมด ส่วนการสิ้นเปลือง ตนคิดว่าถ่านน่าจะเปลืองกว่า และ ว่าจะจุดไฟให้ติดก็ลำบากกว่า ก็ไม่รู้จะเก็บถ่านไว้ตรงไหน โดยถ้าเป็นต่างจังหวัดตนคิดว่าพอได้ แต่ที่นี่มันในเมือง ทั้งควันไฟ ทั้งกลิ่นอีก อยากถามว่านี้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดแล้วหรือที่แนะนำให้ใช้เตาถ่าน ไปดูวิธีช่วยเหลือประชาชนเรื่องแก๊สขึ้นราคาจะดีกว่า

ขณะที่แม่ค้าร้านขายไก่ บอกว่า ตามที่แนะนำให้ใช้เตาถ่านนั้น ก็ใช้ได้นะแต่ว่ามันช้ากว่าไก่จะสุก ไม่เหมือนแก๊สที่สามารถเร่งความร้อนได้ทำให้ไก่สุกไวและกรอบ แล้วที่มาคิดปริมาณถ่านที่ใช้ต่อเดือนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้แก๊ส โดยถ้าใช้ถ่านวันหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า 3 ถุง ถุงละ 20 -25 บาท ไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อวัน คิดแล้วใช้แก๊สถูกกว่าด้วย โดยหลักๆ การใช้ถ่านนั้นเราไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ รวมทั้งควัน กลิ่น ของถ่าน

ส่วนร้านก๋วยเตี๋ยว เปิดขายอยู่ริมถนนเทพารักษ์ ใน อ.บางพลี บอกว่า ถ้าเปลี่ยนจากการใช้แก๊สมาใช้ถ่านจะมีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมอุณหภูมิ และถ่านเดียวนี้ก็หาซื้อยาก เผาเองก็กลัวเจ้าหน้าที่จับ

จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่ประกอบอาหารนั้น พบว่าส่วนใหญ่ต้องใช้เตาแก๊สในการประกอบอาหารทั้งสิ้น เนื่องจากควบคุมอุณหภูมิความร้อนให้เหมาะสมได้ ในอาหารแต่ละอย่าง ส่วนถ่านหรือฝืน ไม่สามารถควบคุมได้ ประกอบทั้งต้องเสียเวลาในการเติมถ่าน อีก ทั้งมีกลิ่นควันจากการเผาไหม้ไปรบกวนลูกค้า และบ้านเรือนข้างเคียง โดยอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือราคาแก๊สมากกว่าที่จะแนะนำมาใช้เตาถ่าน.