เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีหญิงวัยกลางคนพยายามพาลูกชายวัย 21 ปี ไปรักษาอาการป่วยทางจิตเวช แต่รักษาเท่าไหรก็ไม่หาย เดินสายไปรักษาตัวอยู่เป็นปีอาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนสุดท้ายต้องไปพึ่งร่างทรง ที่ระบุว่าลูกชายโดนของ เจอผีปอบเข้าสิง ภายหลังเดินทางไปตรวจสอบยังพื้นที่ หมู่ 5 ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า นายบี (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี มีอาการป่วยทางประสาท และมีอาการปวดหัวบ่อยครั้ง เคยเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.สุรินทร์ แต่ก็ไม่หาย จึงได้เดินสายไปรักษาตาม รพ.ต่าง ๆ เสียเงินนับแสนแต่อาการก็ไม่หายอีก

กระทั่งสุดท้ายลองไปพึ่งร่างทรง ปรากฏว่า ทางร่างทรงบอกว่า โดนของและถูกผีปอบเข้าสิง ทำให้ตนรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้อาการยังไม่หนัก สามารถพูดจากับคนทั่วไปได้ปกติ แต่ภายหลังที่กลับมาจากกรุงเทพฯ ก็เริ่มไม่ค่อยพูดคุยกับใคร บางทีก็มีอารมณ์โมโหไล่ทำร้ายตนผู้เป็นแม่กับน้อง ๆ บ้างก็ทำลายข้าวของเสียหาย พอรู้สึกตัวก็บอกว่าโดนผีปอบสิงร่าง ล่าสุดมีการพยายามแลบลิ้นปลิ้นตาแดง ๆ ร้องหิวอยากกินเลือดสด ๆ แถมทำลายประตูบ้านบอกว่า “กูอยู่ในร่างมัน” จึงอยากขอให้ “หมอปลา” หรือ มือปราบสัมภเวสี เข้ามาช่วยดูอาการและปราบผีปอบในร่างลูกชายด้วย

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ นายบี ที่อ้างว่ามีปอบสิงร่าง กล่าวสั้น ๆ เพียงว่า ตนปวดหัวตลอดเวลาต้องนอนเท่านั้นอาการถึงจะหาย แต่เมื่อนอนแล้วก็จะฝันเห็นเงาดำของชายหญิงร่างกายใหญ่โต จากนั้นนายบี ก็ไม่ยอมพูดคุยเดินหลบหน้าไปในทันใด