สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติของศรีลังการายงานภาวะราคาอาหารเฟ้อในประเทศ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 80.1% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ขณะที่ราคาต้นทุนการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 128% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ด้านรายงานของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ( ยูนิเซฟ ) ระบุว่า ราคาอาหารและค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น เป็นเหตุให้ 70% ของครัวเรือนในศรีลังกา ตัดสินใจลดการบริโภคอาหาร ที่ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม โดยราคาผักส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า และราคาข้าวสารเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 145 รูปี เมื่อปีที่แล้ว ( ราว 14.35 บาท ) มาอยู่ที่ 230 รูปีต่อกิโลกรัมในปัจจุบัน ( ราว 22.77 บาท )
Galloping #inflation forces #SriLankan households to cut back on meals https://t.co/k9R6fuDHKG pic.twitter.com/pvp28YgtDE
— The Times Of India (@timesofindia) July 1, 2022
ปัจจุบัน ศรีลังกากำลังเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) เพื่อขอรับความช่วยเหลือทางการเงินงวดใหม่ เป็นมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 107,070 ล้านบาท ) ด้านธนาคารกลางศรีลังกาเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นสถิติ 700 จุด เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่ศรีลังกาปิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรก มูลค่า 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.82 ล้านล้านบาท )
อนึ่ง ศรีลังกาปิดโรงเรียน และหน่วยงานรัฐทุกแห่งเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤติการขาดแคลนเชื้อเพลิงและพลังงาน ส่งผลกระทบหนักหน่วงมากขึ้น ต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน ต่อยอดจากการอนุมัติวันทำงานเป็นเวลา 4 วัน ให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการให้หยุดงานทุกวันศุกร์เป็นเวลา 3 เดือน และกระตุ้นให้บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐร่วมทำการเกษตรขนาดเล็ก เพื่อร่วมกันบรรเทาวิกฤติการขาดแคลนอาหาร.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES