สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่า การปะทะระหว่างชนเผ่าเฮาซา และชนเผ่าฟุง ในรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้กับพรมแดนเอธิโอเปีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 65 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกมากกว่า 150 คน ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ซูดาน และสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

ด้านเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวว่า พวกเขาจะเพิ่มกำลังการรักษาความปลอดภัยและสืบสวนการปะทะที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังได้ประกาศเคอร์ฟิวกับ 2 เมือง ในรัฐที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

ผู้ประท้วงในกรุงคาร์ทูม เดินขบวนต่อต้านรัฐบาลทหารซูดาน

ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงในเมืองหลวงต่างเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมถือป้ายที่อ่านได้ว่า “หยุดสงครามกลางเมือง”, “บลูไนล์กำลังเลือดออก” และ “ยกเลิกข้อตกลงสันติภาพจูบา”

ทั้งนี้ กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านกองทัพ ซึ่งเคยทำการประท้วงหลายครั้งตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อเดือน ต.ค. 2564 กล่าวโทษรัฐบาลทหารว่ากระตุ้นความรุนแรงภายในประเทศ และล้มเหลวในการปกป้องประชาชน

“หากการรัฐประหารยังมีอยู่ต่อไป หมายความว่าการเสียชีวิตอย่างที่เราเห็นในบลูไนล์, ดาร์ฟูร์ และที่อื่น ๆ จะมีมากขึ้นเช่นกัน” นายโมฮาเหม็ด อิดริส ผู้ประท้วงในกรุงคาร์ทูม วัย 43 ปี กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายนายในกองทัพกล่าวว่า จำเป็นต้องยึดอำนาจเพื่อรักษาเสถียรภาพของซูดาน ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมือง และพวกเขากำลังดำเนินการเพื่อสร้างข้อตกลงสันติภาพในรัฐดาร์ฟูร์และภูมิภาคอื่น ๆ.

เครดิตภาพ : REUTERS