เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูการจัดทำโครงการอาหารกลางวัน ของโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ในช่วงที่สถานการณ์ สินค้าอุปโภค บริโภค นั้นมีราคาสูงขึ้น แต่นักเรียนยังคงสามารถมีอาหารกลางวัน ทานได้อย่างเพียงพอ อิ่มท้อง และถูกหลักโภชนาการ โดยที่โรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย ในเขตพื้นที่ ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีนักเรียนอยู่ในการเรียนการสอนทั้งสิ้น 44 คน มีครูทั้งสิ้น 8 คน แบ่งเป็นข้าราชการครู 4 คน ครูอัตราจ้าง 2 คน ครูพี่เลี้ยง 1 คน และ ธุรการ 1 คน ซึ่งพบว่ามีการปรับตัวใช้งบประมาณ อาหารกลางวันที่ได้มาอย่างรู้คุณค่าทุกบาททุกสตางค์ ที่สามารถใช้งบประมาณ ที่ได้รับวันละ 924 บาท อย่างไร ให้กลายมาเป็นทุนอาหารกลางวัน สู่ทุนการศึกษา สู่คลังอาหารใหญ่ ที่สามารถต่อยอดก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวนักเรียนได้อย่างดี

สำหรับโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย ได้มีการจัดทำโครงการ ผักสวนครัวโรงเรียน ซึ่งได้รับความร่วมมือร่วมใจจากคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครอง ที่ช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน จนทำให้เกิดโครงการที่สมบูรณ์ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเรียน ในการจัดทำแปลงผักสวนครัวของนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลที่ 1 ไปจนถึงชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 เพื่อสร้างแหล่งอาหารต้นทุนให้กับมื้ออาหารกลางวัน มีทั้ง เห็ดนางฟ้า ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว พริก กะเพรา ทำให้สามารถนำเงินจำนวน 924 บาท ที่ได้รับต่อวัน ซื้อเนื้อสัตว์ ขนม ผลไม้ ส่วนพ่อครัว แม่ครัว ที่ทำอาหารนั้น จะเป็นครูและนักเรียนช่วยกัน ทำให้นักเรียนที่โรงเรียน ได้ทานอาหารกลางวัน ได้อย่างอิ่มท้อง ก่อนต่อยอดผลผลิตที่หากช่วงไหนเหลือจากประกอบอาหารกลางวัน จะนำไปจำหน่าย ก่อนนำเงินที่ได้มาเป็นกองทุนหมุนเวียนแปลงผัก และนำไปสู่การเก็บสะสมจนเป็นทุนการศึกษา ให้กับนักเรียนได้ทุกปี อีกด้วย

โดยนางปัทมนันท์ อิสริยภานันท์ ครูชำนาญการพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย กล่าวว่า โรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุยของเรา ได้รับงบประมาณโครงการอาหารกลางวันจาก อบต.หนองนางนวล โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมานี้ได้เพิ่มจาก 20 บาท เป็น 21 บาท ต่อคน นักเรียนของเรามีทั้งหมด 44 คน เงินที่เราได้รับต่อวันก็จะเป็นเงิน 924 บาทต่อวัน แต่ด้วยในภาวะเศรษฐกิจที่ข้าวยากหมากแพงตอนนี้ ทางโรงเรียนก็ได้ปรึกษากับกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครอง ในการปรับตัวเพื่อให้โครงการอาหารกลางวันของนักเรียนยังคงพอเพียงและนักเรียนได้อิ่มท้องทุกมื้อ จนเกิดเป็นความร่วมมือในการปลูกผักสวนครัวโรงเรียน เพื่อนำมาใช้ในโครงการอาหารกลางวัน ส่วนที่เหลือจากทำอาหารก็จะนำไปจำหน่ายในราคาต้นทุน เพื่อนำเงินที่ได้เป็นทุนไว้ใช้ต่อยอดหมุนเวียน และในส่วนของเงินที่เราได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก อบต. นั้น ในส่วนของโครงการอาหารกลางวัน เราจะนำเงินส่วนนี้ไปซื้อหมูซื้อไก่ และซื้อของต่างๆ ในส่วนที่เรายังผลิตเองไม่ได้

“ผ่านมาทางโรงเรียนได้รับความอนุเคราะห์จากผู้มีอุปการะคุณหลายๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็นผักพื้นบ้าน หรือบางครั้งก็จะเป็นข้าวสาร ซึ่งล่าสุดนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จาก น.ส.ปานัดฌา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรี เมืองอุทัยธานี และมูลนิธิไทยเศรษฐ์ ในการมอบข้าวสาร 2 กระสอบใหญ่ 100 กิโลกรัม ให้กับโรงเรียนขนาดเล็กของเรา ซึ่งเป็นการทุ่นค่าข้าวสารไปได้มาก โดยเราก็ได้นำเงินส่วนจากอาหารกลางวันไปซื้อหมู ซื้อไก่ ซื้อผลไม้ และขนม ให้เด็กๆ ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้ง โครงการปลูกผักอาหารกลางวันนี้ เด็กๆ ยังได้เรียนรู้ทักษะชีวิตที่เป็นประสบการณ์ คือเด็กทุกคนจะได้ลงมือปลูกผักร่วมกับผู้ปกครอง แล้วก็ได้ดูแลรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย พอถึงเวลาผลผลิตเราออก เด็กๆ เขาก็จะมาเก็บผักเหล่านี้ไปทำอาหารกลางวันกินกัน” รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย กล่าว

รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย กล่าวเพิ่มเติมว่า หากช่วงไหนผักให้ผลผลิตมาก ก็ได้นำกลับไปให้ที่บ้านและจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้และเพิ่มทุนหมุนเวียนได้ด้วย และนอกจากที่เด็กๆ สามารถนำไปต่อยอดที่บ้านได้แล้ว ทางโรงเรียนยังได้แจกเมล็ดพันธุ์ผักให้กับผู้ปกครองเพื่อไปปลูกที่บ้านด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า โครงการอาหารกลางวัน ของโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุยในตอนนี้แม้สินค้าจะมีราคาสูงขึ้นมาก แต่เด็กๆที่นี่ทุกคนจะยังคงได้ทานอาหาร ที่อิ่มท้องและได้ประโยชน์เหมือนเดิม เนื่องด้วยเรามีที่ปรึกษาที่ดี ทั้งคณะกรรมการสถานศึกษา ทั้งผู้ปกครองที่น่ารักให้ความเอาใจใส่ ทำให้ตรงนี้ทางโรงเรียน จึงสามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นอย่างดี.