เชื่อว่าใครหลายคนมักมีความฝันว่าอยากเรียนจบสูงๆ มีการงานที่มั่นคง เพื่อนร่วมงานดีไม่ทำให้ปวดหัว มีบ้านสักหลัง รถหนึ่งคันพร้อมกับคนข้างกายสุขภาพดีก็เพียงพอ แต่คนไทยส่วนใหญ่ถูกสอนให้เน้นเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาเป็นที่ตั้งอยู่แล้วเมื่อทำงานหาเงินได้ก็มักจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งของรายได้ให้กับพ่อแม่เพื่อตอบแทน ในฐานะที่เป็นผู้มีพระคุณที่ส่งเสียเลี้ยงดูเรามา แต่ทว่าพอโตขึ้นเรามักมีคำถามว่าควรให้เงินเดือนพ่อแม่เท่าไหร่ถึงจะเพียงพอเพราะค่าใช้จ่าย ที่เราจะต้องรับผิดชอบมันก็เยอะจึงเป็นปัญหาเหมือนกับสาวรายนี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2565 ได้มีสมาชิกผู้ใช้ Pantip รายหนึ่งได้เข้ามาเขียนขอคำปรึกษาเรื่องราวของการให้เงินเดือนพ่อแม่ว่า “เราทำงานมาสักพักแล้วตั้งแต่เริ่มมีงานประจำเราก็ให้พ่อแม่มาตลอด (มากกว่า 10% ของเงินเดือน) มากกว่าพี่ชายตลอดทั้งหมดมานี้คือพวกท่านสอนให้ต้องให้เงินที่บ้าน (ถามเพื่อนๆส่วนใหญ่ไม่ได้ให้) พอเราได้โบนัสเราก็เอาเงินบางส่วนแบ่งให้ที่บ้าน

ทุกครั้งที่เจอลุง ลุงก็จะบอกตลอดว่าควรให้พ่อแม่เพิ่มไปเรื่อยๆ (แต่พ่อแม่เราให้พ่อแม่เขาไม่เยอะเท่าที่เราให้ไม่ได้ให้ประจำเพราะเขาอ้างว่าพี่น้องคนอื่นๆ ให้แล้ว) แต่เอาเข้าจริงพอโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็มีภาระมากขึ้นปกติเรามีอะไรเราก็จะเล่าให้พ่อฟังตลอดจนล่าสุดเราได้งานพิเศษที่เขาบอกว่าจะจ่ายเป็นรายเดือน เราบอกพ่อเล่าให้ฟังปกติ อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่าเงินเดือนเดือนแรกจากที่ทำงานใหม่ควรเอาให้แม่

เราก็คืองงว่าเราให้ทุกเดือนอยู่แล้วอันนี้ควรอีกหรอ (แอบน้อยใจทำงานเหนื่อยมากเครียดยังมาปวดหัวเรื่องนี้อีก) เราก็ถามว่าเราที่เปลี่ยนงานบ่อยเดือนแรกของทุกที่คือต้องให้แล้วแบบนี้จุดสิ้นสุดคือที่ไหนเขาก็บอกว่ากับพ่อแม่ไม่ควรมี limit พ่อบอกว่าลองคิดถึงตอนที่แม่อุ้มท้องเรามาสิลองคิดดูว่ากว่าจะเลี้ยงเราโตพวกเขาเสียสละไปเท่าไหร่เอาจริงๆนะเราก็เหนื่อย เราเครียด เราไม่รู้ว่าควรทำยังไง เราท้อ เราไม่รู้ว่าอะไรคือดีไม่ดี”

ภายหลังจากที่โพสต์ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้มีเหล่าชาวโซเชียลเข้ามาออกความคิดเห็นเพิ่มเติมเป็นอย่างมากกับเรื่องราวนี้ ส่วนใหญ่ก็ลงความเห็นคล้ายกันว่า ถ้าพ่อแม่มีเงินเดือนอยู่แล้วอาจจะไม่ต้องให้ เราสามารถตอบแทนความกตัญญูได้ด้วยวิธีอื่น ควรเก็บเงินและวางแผนในอนาคตของเราเมื่อยามเกษียณให้ดี อีกทั้งบางคนก็มองว่าให้ตามกำลังและไม่เดือดร้อนตนเอง ถ้าคุณให้จนตัวเองไม่พอกิน ต่อไปจะเอากำลังที่ไหนไปหาทรัพย์มาบำรุงพ่อแม่ 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้อาจจะไม่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องได้ เพราะความเหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับเงินเดือนของเราที่ได้รับ และภาระหน้าที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพราะแบบนี้การวางแผนทางการเงิน และการใช้ชีวิตจะส่งผลดีที่สุด…