เมื่อวันที่ 29 ก.ค. วิลล์ สมิธ ดาราเจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีประกาศรางวัล ‘ออสการ์’ ปีล่าสุด ผู้สร้างข่าวอื้อฉาวด้วยการเดินขึ้นไปตบหน้าผู้แนะนำรางวัล ‘คริส ร็อก’ บนเวทีและตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพื่อแสดงความไม่พอใจที่อีกฝ่ายล้อเลียนเรื่องทรงผมของภรรยาของตน ได้ตัดสินใจโพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 5 นาทีเศษ โดยมีเนื้อหาเป็นการกล่าวคำขอโทษ ร็อก และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของเขา

ในคลิปที่เพิ่งโพสต์ไปนั้น สมิธ ตอบคำถามถึงเหตุผลที่เขาไม่ยอมขอโทษ ร็อก ในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ตอนที่เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง King Richard โดยอ้างว่า ตอนนั้นเขา ‘มึนงงและสับสน’ เกินไป จนไม่สามารถคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและหาทางที่เหมาะสมเพื่อรับมือ

สมิธ กล่าวขอโทษ ร็อก ต่อหน้ากล้อง พร้อมทั้งตำหนิตัวเองที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมและหยาบคาย เขาอ้างว่า ได้เคยติดต่อไปยัง ร็อก หลังจากนั้น แต่ได้รับการปฏิเสธ ดาวตลกชื่อดังอ้างว่า เขายังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับ สมิธ และจะติดต่อมาเองเมื่อเขาพร้อม โดยที่ สมิธ เองก็กล่าวในคลิปว่า ยินดีคุยกับอีกฝ่ายทุกเมื่อ

หลังจากอธิบายว่า ในตอนนั้น ตนเองไม่คิดเลยว่าการกระทำดังกล่าวได้ทำให้คนอื่น ๆ อีกหลายคนต้องเจ็บปวด จนกระทั่งมาสำนึกได้ภายหลัง สมิธ ยังได้กล่าวขอโทษแม่ของ ร็อก รวมถึงพี่ชายของ ร็อก ที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา และยอมรับว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาอาจกลับไปเป็นเหมือนเก่าไม่ได้อีก

นอกจากนี้ สมิธ ยังชี้แจงว่า เจดา พิงเกตต์ สมิธ ภรรยาของเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้เขาแสดงพฤติกรรมดังกล่าวบนเวที ทุกอย่างเป็นเรื่องที่เขาคิดเอง ทำเอง เขาได้กล่าวขอโทษเธอและทุกคนที่เขาทำให้ผิดหวัง รวมถึงไม่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคนที่เคยมองเขาเป็นบุคคลต้นแบบ

สมิธ ปิดท้ายว่า เขาสัญญาว่าจะยินดีอุทิศตัวเพื่อนำแสงสว่าง ความรัก และความสุข มายังโลกใบนี้

ทางด้าน คริส ร็อก ยังคงไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับคลิปขอโทษของ สมิธ แต่ก่อนหน้านี้ เขาประกาศว่า จะนำเรื่องที่ตัวเองโดนตบหน้ากลางเวทีมาพูดถึงในโชว์แสดงตลกของเขาที่เปิดการแสดงตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ในนิวเจอร์ซีย์ 

จากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงต่อหน้าสาธารณชนที่เกิดขี้น สถาบันศิลปวิทยาการภาพยนตร์ผู้เป็นเจ้าของรางวัล ‘ออสการ์’ ได้ตัดสินลงโทษ วิลล์ สมิธ โดยห้ามเขาเข้าร่วมงานประกาศรางวัลและงานอื่น ๆ ของสถาบันเป็นเวลา 10 ปี แต่ไม่มีการยึดรางวัลคืนแต่อย่างใด

แหล่งข่าว : independent.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES