จากกรณี เหตุเพลิงไหม้ สถานบันเทิงผับ MountainB ที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยเขาหมอน ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 13 ราย และบาดเจ็บ 18 ราย โดยมีพยานนักท่องเที่ยวให้การระบุว่า ทางเข้าออกของสถานบันเทิงแห่งนี้คับแคบ ทำให้ช่วงเกิดเหตุหนีออกมาได้อย่างยากลำบาก เมื่อเพลิงลุกไหม้ด้านใน จึงทำให้นักท่องเที่ยวต้องยอมโดนแผ่นโฟมที่ละลายตรงทางเข้าหยดใส่ร่างกายลุกติดไฟสาหัส กลายเป็นภาพสยดสยองในโลกออนไลน์อย่างที่เห็น เรื่องราวลักษณะเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุเพลิงไหม้ “ซานติก้าผับ” ย่านเอกมัย กทม.

ย้อนกลับไปในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2551 ต่อเนื่องวันที่ 1 ม.ค. 2552 ช่วงนั้นมีการจัดงานรื่นเริงตามสถานบันเทิงทุกแห่ง เหล่านักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการกินดื่ม ชมการแสดงดนตรีเพื่อร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภายในตัวอาคาร ซานติก้าผับเต็มไปด้วยผู้คนมากกว่า 1,000 คน ต่างเข้าไปใช้บริการดื่มกินอย่างสนุกสนาน ระหว่างเกิดเหตุพบว่าอยู่ในช่วงการแสดงดนตรี มีการจุดพลุไฟหน้าเวที ซึ่งมีความสูงเพียง 5 เมตร จนเกิดไฟลุกไหม้บนเพดาน ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วในตัวอาคาร ทำให้ผู้คนด้านในพยายามวิ่งหนีตายออกมา ทั้งนี้ มีพยานยืนยันว่า ช่วงที่หนีเอาตัวรอดมาได้นั้น พบว่าทางเข้าออกที่คับแคบ มีการเหยียบกันล้มคว่ำ บางคนลุกหนีออกมาไม่ทันด้วยความมึนเมา ทำให้โดนไฟคลอก เสียชีวิตทั้งหมด 67 คน บาดเจ็บสาหัส 32 คน และบาดเจ็บอีก 71 คน

หลังเกิดฝ่ายงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า สถานบันเทิงแห่งนี้ ไม่มีแบบแปลนแผนผังอาคารติดตั้งแสดงไว้ ไม่มีแม้แต่ป้ายบอกเส้นทางหนีไฟ รวมทั้งไม่ติดตั้งไฟฉุกเฉินให้มีจำนวนเพียงพอที่จะสามารถเปิดส่องสว่างแก่ลูกค้าเพื่อการหลบหนีออกจากตัวอาคารได้สะดวกและปลอดภัย อาคารมีพื้นที่ให้บริการลูกค้าที่สามารถจุคนได้ไม่เกินจำนวน 500 คน แต่ขณะเกิดเหตุมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน ทำให้ฝ่ายงานเกี่ยวข้องทำการฟ้องร้องเอาผิด เจ้าของและผู้บริหารสถานบันเทิง รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องด้านต่าง ๆ ซึ่งคดีนั้นไปจนถึงชั้นฎีกาแล้ว

โดยศาลฎีกามีคำพิพากษให้จำคุก เสี่ยขาว “เสี่ยขาว” หรือ นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ ผู้บริหารซานติก้าผับ และ นายบุญชู เหล่าสีนาท กรรมการผู้มีอำนาจ บ.โฟกัสไลท์ ซาวน์ซิสเต็ม จก. รับจ้างติดเอฟเฟกต์ คนละ 3 ปี นอกจากนี้ยัง ปรับ บ.โฟกัสไลท์ ซาวน์ซิสเต็ม จก. ฐานะนิติบุคคลอีก 2 หมื่นบาท ทั้งให้ชดใช้โจทก์ร่วมที่บาดเจ็บ-เสียชีวิต อีก 5.12 ล้านบาท