สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ว่านางโรห์ กุล คาอีร์ซาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดนิมรอซ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอัฟกานิสถาน แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าเมืองซารัง ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดนิมรอซ ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มตาลีบันแล้ว และให้รายละเอียดของสถานการณ์เพียงว่า "เป็นความสูญเสียท่ามกลางการต่อสู้"
ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เมืองซารังถือเป็น "ความสูญเสียทางยุทธศาสตร์" ครั้งใหญ่และครั้งแรกของอัฟกานิสถาน ในขณะที่กองทัพสหรัฐและพันธมิตรอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการถอนทหาร "ชุดสุดท้าย" กลับประเทศ ภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ หลังประจำการต่อเนื่องยาวนาน 20 ปี และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจับตาอย่างใกล้ชิดด้วยความกังวล ว่าแล้วในอนาคตกองทัพอัฟกานิสถาน "จะสามารถยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง" ได้มากเพียงใด
เนื่องจากในวันเดียวกับที่กลุ่มตาลีบันยึดเมืองเอกของจังหวัดนิมรอซได้ นายดาวาล ข่าน เมนาปาล ผู้อำนวยการศูนย์สื่อและข่าวสารของรัฐบาลอัฟกานิสถาน ( จีเอ็มไอซี ) เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารในกรุงคาบูล และกลุ่มตาลีบันยืนยันเป็นผู้ลงมือ
ด้านนางเจน ซากี โฆษกหญิงทำเนียบขาว กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดในอัฟกานิสถาน ว่ากลุ่มตาลีบันกำลังต้องการการยอมรับจากนานาชาติ แต่การเคลื่อนไหวโดยใช้ความรุนแรงเช่นนี้ ไม่มีทางช่วยให้กลุ่มตาลีบันได้รับความชอบธรรมที่กำลังแสวงหา
ขณะที่นางเดบราห์ ลีอองส์ ผู้แทนพิเศษด้านกิจการอัฟกานิสถานของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวว่า สถานการณ์ในอัฟกานิสถานมีแนวโน้มนองเลือด และเสียหายเป็นวงกว้าง ไม่ต่างจากในซีเรียและบอสเนีย และตั้งคำถามเกี่ยวกับ "ความจริงจัง" ของกลุ่มตาลีบัน ในการยึดมั่นตามข้อตกลงโดฮาซึ่งลงนามร่วมกับสหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว และการเจรจาตามแนวทางการทูตร่วมกับรัฐบาลกลางในกรุงคาบูล.

เครดิตภาพ : REUTERS