เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หาก ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมสภาและทำให้สภาล่ม จะถือว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ ว่า มันเป็นเกมในทางสภา ที่เคยใช้กันมาเสมอ เช่นวอล์กเอาต์ หรือทำให้องค์ประชุมไม่ครบ แต่คิดว่ายังไม่ถึงขั้นจะบอกว่าผิดจริยธรรม เพราะถือเป็นอาวุธของสภาที่จะใช้ในการคัดค้านสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วย เหมือนกับการเดินออกหรือนั่งอยู่ในห้องประชุมโดยไม่ยกมือ ฉะนั้นเรื่ององค์ประชุมคงจะถือว่าเป็นเรื่องจริยธรรมยาก แม้จะน่าตำหนิก็ตาม

เมื่อถามถึงการยื่นตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีการยื่นทางช่องทางผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวิษณุ กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ถือเป็นช่องทาง เพราะสุดท้ายต้องยื่นต่อไปทที่ กกต.ซึ่งช่องทางมีอยู่ 2 ช่องทางเท่านั้น คือ ส.ส.เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 หรือ ส.ว.เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 กับอีกช่องทางคือ กกต.ยื่นตามมาตรา 170 แต่ถ้ายื่นต่อ กกต.จะมีน้ำหนัก เพราะต้องมีการกลั่นกรองคล้ายกับการไต่สวนมูลฟ้อง ดังนั้นถ้าผ่าน กกต.ถือว่ามีน้ำหนักผ่านไปหนึ่งชั้น แต่จะยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้ แต่ต้องกลับไปยื่น กกต.อีกอยู่ดี เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญเองไม่ได้ ซึ่งขอให้รีบทำเพราะศาลรัฐธรรมนูญจะได้รีบวินิจฉัยเหมือนที่นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเคยบอกไว้

นายวิษณุ ยังกล่าวอีกว่า ปัญหาในเรื่องข้อกฎหมายเป็นเรื่องที่ศาลรู้ได้เอง ชาวบ้านอาจไม่เข้าใจ แต่ไม่ต้องสืบพยานซึ่งอาจให้ผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงไม่ต้องเรียกพยานมาเหมือนกับคดีฆ่ากัน เพราะอันนี้เป็นการตีความกฎหมายและดูเจตนารมณ์ ส่วนที่มีนักการเมืองออกมาระบุว่า หากนายกฯ ยังทำงานต่อจะไปแจ้งความมีความผิดขณะนั้นเลยหรือไม่ หากเลยวันที่ 23 ส.ค.ไปแล้วนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถแจ้งได้แล้วจะอย่างไรต่อทั้งนี้ ตราบใดที่ยังไม่มีการสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ สามารถทำได้หมดทุกอย่าง แม้กระทั่งการเซ็นเอกสาร ย้ายข้าราชการ หรือการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้.