อดีตนายกฯ หญิงคนแรกของไทย ผู้นี้ ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคำพิพากษาของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่สั่งจำคุก 5 ปี ใน คดีที่ไม่ระงับยับยั้งการระบายข้าวจนเกิดความเสียหายในโครงการทุจริตรับจำนำข้าว ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ศาลฯ พิพากษา เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2560 ผ่านมาจนถึงขณะนี้ รวมเป็นเวลากว่า 7 ปี

และแล้วเมื่อ “อดีตนายกฯ ทักษิณ” กลับคืนสู่ประเทศไทยจริงๆ เมื่อเดือน ส.ค. 2566 และได้เข้าสู่ขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม ตามด้วยเกิดเหตุการณ์การใช้ “อภินิหาร” ลอดช่องทางกฎหมายมากมาย จนทำให้อดีตนายกฯ ไม่ได้นอนในคุกแม้แต่วันเดียว และหลังจากผ่านไป 6 เดือน ก็ยังได้รับการพักโทษ ล้วนนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า ทักษิณโมเดล ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังจะทำให้กรณีพา “ยิ่งลักษณ์” กลับบ้านเริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ยกฟ้องพร้อมกับถอนหมายจับ อดีตนายกฯ หญิง ใน คดีโรดโชว์สร้างอนาคตประเทศไทย 240 ล้านบาท และ ยกฟ้องคดีโยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้มีอีกหลายคดีที่อยู่ในชั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถูกตีตก

และในช่วงสงกรานต์หมาดๆ ที่ผ่านมา “ทักษิณ” เอ่ยปากระหว่างไปทำบุญที่ จ.เชียงใหม่ ว่า “นายกฯ ปูอวยพรสงกรานต์ก่อนที่ผมจะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอกเดี๋ยวปีหน้าเรามาทำบุญด้วยกัน” แม้ทำให้หลายๆ คนคงกังขาไปต่างๆ นานาได้ว่า นี่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พี่ชายจะยอมปล่อยให้น้องสาวสุดที่รักกลับมารับโทษเข้าเรือนจำอย่างนั้นหรือ

เหล่าคอการเมืองต่างส่องกล้องมองหาช่องทางสารพัดถึงความเป็นไปได้ที่จะนำพาให้อดีตนายกฯ หญิง กลับไทยในเร็ววัน ด้านหนึ่งน่าคิดว่า อาจเกิดการใช้ ดีลลับดีลพิเศษ เปิดทางให้กลับบ้านได้ง่ายที่สุด

หรือรัฐบาลอาจใช้ อภินิหารทางกฎหมาย ใช้กฎหมายหรือระเบียบ อย่างเช่น ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก เพราะ รมว.ยุติธรรม สามารถสั่งการต่างๆ ขณะเดียวกัน ระเบียบนี้สามารถใช้ได้กับนักโทษเด็ดขาดทุกคน และไม่มีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับโทษมาแล้ว แต่หากจะนำ “ทักษิณโมเดล” มาปรับใช้ ก็อาจไม่สะดวกโยธินเหมือนเก่า และใช้เกณฑ์ผู้สูงอายุไม่ได้ เพราะอดีตนายกฯ หญิง ยังมีอายุไม่ถึง 60 ปี วิธีนี้จะยิ่งท้าทายความรู้สึกของประชาชน และส่งผลให้รัฐบาลเจอภาวะลำบากหรือกระแสต่อต้านมากขึ้น

หรือถ้าใช้อีกช่องทาง คือการเร่งคลอด พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้ก็มีความเป็นไปได้ แต่อาจทำให้ พรรคก้าวไกล ได้แต้มต่อและได้รับอานิสงส์ด้วย เพราะสามารถยื่นข้อเสนอให้ล้างคดีความของคนในเครือข่าย “ด้อมส้ม” ที่ถูกตั้งข้อหาทำความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมไปกับคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มทุกสีเสื้อ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2548 แลกกับการที่ พรรคก้าวไกล ร่วมมือร่วมใจช่วยผลักดันให้ร่างกฎหมายนี้ออกมาโดยเร็วที่สุด

นับเป็นเกมนี่น่าติดตามเสียเหลือเกิน ว่าพี่ชายจะใช้อภินิหารใด พาน้องสาวผู้ที่เป็นรักเหาะเหินได้ดั่งใจฝัน.