สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่าสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง รายงานว่านายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวต่อที่ประชุมนักวิทยาศาสตร์และบุคลากรสาธารณสุข ในกรุงเปียงยาง ว่าเกาหลีเหนือ “มีชัยชนะเหนือการแพร่ระบาดของโรคร้าย” และเป็นการแสดงให้โลกได้ประจักษ์ถึง “ความยิ่งใหญ่” ของรัฐและประชาชน ในการร่วมกันควบคุมวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้


ทั้งนี้ เกาหลีเหนือยืนยันผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ที่เคซีเอ็นเอใช้คำว่า “มีอาการไข้สูงมาก” สะสมเกือบ 4.8 ล้านคน นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 74 ราย โดยไม่มีการยืนยันผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม นับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา รายงานของเคซีเอ็นเอระบุว่า “เป็นปาฏิหาริย์” แต่หลายฝ่ายรวมถึงองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) มองว่า เป็นเพราะศักยภาพการตรวจที่จำกัดมากกว่า

นายคิม จอง-อึน เข้าร่วมการประชุมด้านสาธารณสุข ว่าด้วยโรคโควิด-19 ที่กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ


อนึ่ง เคซีเอ็นเอให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “แหล่งกำเนิด” ของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในเกาหลีเหนือ ว่ามาจากการที่ทหารวัย 18 ปีนายหนึ่ง และนักเรียนอนุบาลวัย 5 ขวบคนหนึ่ง “สัมผัสกับวัตถุแปลกปลอม” บนพื้นที่หุบเขาของเมืองอิโป-รี ในเขตคุมกัง ของจังหวัดคังว็อน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และผลตรวจหลังจากนั้น ปรากฏว่า ทั้งคู่ติดเชื้อโควิด-19


แม้ไม่ได้ระบุถึงเกาหลีใต้ แต่มีการเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับลูกโป่ง และสิ่งแปลกปลอมใดก็ตาม ซึ่งลอยข้ามพรมแดนมาจากเส้นแบ่งเขตแดนทางใต้ ด้านกระทรวงรวมชาติในกรุงโซลกล่าวว่า “ไม่มีความเป็นไปได้แม้แต่นิดเดียว” ในการที่โรคโควิด-19 เข้าสู่เกาหลีเหนือ ผ่านกิจกรรมตามแนวพรมแดนของนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวของท่านผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ซึ่งร่วมแถลงต่อที่ประชุมครั้งนี้เช่นกัน ยังคงกล่าวโทษกิจกรรมของนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ และเผยด้วยว่า พี่ชายของเธอ “มีไข้สูง” ในช่วงที่การแพร่ระบาดของโรคกำลังรุนแรงด้วย.

เครดิตภาพ : REUTERS