กลายไวรัลที่ทำเอาใครหลายๆ คน อึ้งตาแทบแตก เมื่อเห็นโพสต์บนเฟซบุ๊กของ @Verawat Kritsanakarn ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวที่ทำให้เจ้าตัวตะลึงสุดๆ หลังปล่อยให้ครอบครัวหนึ่งเข้ามาเช่าคอนโดฯ ของตนเอง ทว่าเพียงระยะเวลาแค่ครึ่งปี กลายเป็นว่าเมื่อเจ้าของห้องมาเยือน สภาพกลับไม่เหมือนเดิมสะงั้น ถึงขั้นต้องขอแชะภาพอวดลงโซเชียล

โดยหนุ่มรายนี้เล่าว่า “ตนเองได้ซื้อคอนโดฯ 2 ชั้น สูงสุดของตึก ชั้น 25-26 พื้นที่ 170 ตารางเมตร แต่พอมีลูกก็เลยอยากมีพื้นที่ สนามหญ้า, สระว่ายน้ำ เพิ่มเลยไปซื้อบ้านและปล่อยคอนโดฯ นี้แบบไม่มีคนอยู่นานเป็นปี พอถึงเวลาจ่ายค่าส่วนกลางตกประมาณปีละ 5 หมื่นบาท ก็รู้สึกเสียดายเงิน บวกกับห้องที่ไม่มีคนอยู่มันไม่มีอากาศถ่ายเท และไม่มีคนดูแลปล่อยไว้จะยิ่งโทรม ก็เลยเริ่มหาคนเช่า ผมให้เช่าในราคาที่ไม่สูง เพราะผมต้องการเลือกคนเช่า ที่รักห้อง ดูแลห้องดีๆ จนทางผู้เช่าหนุ่มต่างชาติติดต่อเข้ามา แล้วก็นัดมาดูห้อง

เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย แต่วันนั้นก็คุยกันหลายชั่วโมง จนตกลงว่าจะชำระเป็นรายปี แลกกับที่เขาบอกว่าจะตกแต่งและซ่อมแซมห้องให้สวยงาม ซึ่งทางเขาก็เอารูปห้องที่อยู่ คุยประวัติชีวิตและหน้าที่การงานกัน ซึ่งผมทำอาชีพซื้อขายรถยนต์มือสอง แล้วทางเขาก็เป็นช่างซ่อมรถกับขายรถหรู

หลังจากผ่านไปเกือบปี ผมก็ไม่ได้สนใจหรือเข้าไปดูเรื่องห้องเลย มีทางนิติฯ ของคอนโดฯ โทรฯ มาบ้างเรื่องเสียงดัง และระยะเวลาต่อเติมที่ยาวนาน แต่ก็ไม่ได้เข้าไปดู มีวันหนึ่ง ทางผู้จัดการนิติฯ โทรฯ มาแบบซีเรียส เนื่องจากมีการทำผิดกฎ ทุบช่องชาร์ปเพื่อใส่อ่างอาบน้ำ แล้วเชิญผมที่เป็นเจ้าของห้องเข้าไปพูดคุย ถึงได้เข้าไปครั้งแรก เอาตรงๆ วันนั้นก็ช็อกมาก เพราะห้องเละไปหมดเลย

และวันนั้นคือวันที่ผมเริ่มได้คุยกับทางผู้เช่าบ่อยขึ้น ช่วยเขาหาผู้รับเหมา และยังมีการแนะนำว่าทำไมถึงได้ต่อเติมเยอะขนาดนี้ รวมถึงพูดถึงความเสี่ยงว่า นี่เขาเช่าห้องนะ ไม่ได้ซื้อ หากไปเจอผู้ให้เช่าที่ไม่ดีจะทำยังไง ซึ่งทางเขาก็ร้องไห้ น้ำตาไหลเลย เขาแค่ต้องการทำห้องที่จะอยู่ให้ดีที่สุดในแบบที่ฝันไว้

นอกจากนี้สาเหตุที่มันเนิ่นนาน เกิดปัญหาระหว่างต่อเติม คือ ช่างหนี, โกงเงิน, ขโมยของ, ทำไม่ได้แบบที่คุย ผมก็เห็นใจ แล้วเริ่มช่วยแนะนำ ส่วนตัวผมประทับใจในตัวคนเช่าในความตั้งใจและพยายามจริงๆ จนทุกวันนี้เขาบอกว่าผมเป็นพี่ชาย ยกให้ผมเป็นคนในครอบครัวของเขาเลย

อย่างไรก็ตาม ชายเจ้าของห้องยังเปิดเผยความรู้สึกอีกว่า “เรื่องจริง 100% ไม่มีจัดฉาก ไม่ได้ทำคอนเทนต์ ไม่ได้อยากดัง แต่อยากอวดจริงๆ เพราะเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นจริงที่คงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ หรือเกิดขึ้นทุกวัน”…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @Verawat Kritsanakarn