กลายเป็นประเด็นดุเดือดสุดๆ สำหรับกรณีของ “มาดามแพม-วิญญ์ลภัส ศรีสกุลเมฆี” (บิวตี้บล็อกเกอร์) ที่ได้ออกมาแฉพฤติกรรม “น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์” (นางงามมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559) เหตุเกิดจากมาดามแพมเจอน้ำตาลในงานแล้วไม่ไหว้ตนเอง ทำเป็นเมินใส่ จนต้องออกโพสต์แฉสนั่นโซเชียล 

โดยทางมาดามแพม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “วันนี้มาออกทีวีเจอนางงาม Top 6 ระดับโลกเขารู้จักทำเป็นไม่รู้จักชีวิตมาดามแพมน่าสงสาร” อีกทั้งแพมยังไลฟ์สดระบุว่า “ตนเองนั้นเข้าหาน้ำตาลเพราะชื่นชอบนางงามคนนี้มาก ทุกครั้งเวลาเจอจะวิ่งไปหาตลอด เขาไม่เคยต้องวิ่งมาหาเราเลยนะ” ซึ่งมาดามยังเล่าต่ออีกว่าว่า “ในวันเกิดเหตุมีคนอยู่ไม่มาก สามี, น้ำตาล, ผู้จัดการ, ช่างแต่งหน้า และทีมงานอีก 1 คน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่อะไรนะ Xเสือกเอง วิ่งไปหาเขา ก็บอกได้ว่าหน้าร้าวเลย หน้าเหมือนกระเบื้องแตก ไปคุยกับเขา เขาไม่อยากคุยกับเราเอง พวกแฟนนางงามก็ปากร้ายมาก มาบอกว่าเราไม่ได้ดัง เขาไม่จำเป็นต้องทักก็ได้ นี่คือสิ่งที่อยากบอกว่า รุ่นน้องไม่ไหว้รุ่นพี่เหรอ แต่นี่รู้สึกว่าเขาไม่อยากยุ่งกับเรา รู้สึกเสียใจ แล้วผู้จัดการก็มาแก้ตัวว่าไหว้ แต่นี่เห็นว่าไม่ไหว้นะ”

ในช่วงขณะที่ไลฟ์สดอยู่นั้น น้ำตาลก็ได้เข้ามาตอบในไลฟ์มาดามแพมว่า “ตาลไม่ได้ไหวตอนไหนคะ ตาลไหว้สวัสดีแล้ว แล้วโทรศัพท์เข้าเพราะผู้ใหญ่โทรฯ มาค่ะ ทางทีมงานโทรฯ ไปมาดามก็ไม่รับสายค่ะ อย่าใส่ไฟเลยค่ะ เอาจริงๆ นะคะ ตอนนี้ก็ทำให้ตาลเสื่อมเสียชื่อเสียงเหมือนกันนะคะ มาดามบอกคนอื่นว่าอย่าไปทำร้าย แต่มาดามกำลังทำร้ายตาลอยู่ค่ะ แบบนี้ไม่น่ารักเลยค่ะ ตาลฟ้องได้ไหมคะ”

ต่อมาด้านแฟนของคุณแพม ได้ออกมาโพสต์ว่า “ผมวิชญ์ สามีของมาดามแพม ตลอดเวลาที่ผมคบกับแพมมา โดยปกติแพมเป็นคนที่อ่อนไหวมากๆ ปากร้าย แต่ใจดี แต่ในขณะเดียวกันผมสังเกตเห็นว่า ตั้งแต่เมียผมเป็นมาดามแพม เป็นบุคคลสาธารณะ เธอเริ่มสะสมความเครียดขึ้นทุกวัน เริ่มกดดันตัวเอง อารมณ์แปรปรวนง่าย เกิดอารมณ์ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้

ผมกับเมียก็จูงมือพากันไปหาจิตแพทย์ และก็รู้ว่าเมียผมเป็นโรคซึมเศร้า ผมพึ่งรู้ว่าโรคซึมเศร้ามันเป็นโรคติดต่อ เพราะทุกครั้งที่ผมเศร้า เมียผมก็เศร้า ทุกครั้งที่เมียผมเศร้า ผมก็เศร้าแย่ชะมัด กาลเวลาผ่านไป เรากินยาและรักษากันจนนึกว่าหายดีแล้ว ตัดสินใจว่า ในวันพรุ่งนี้หรือมะรืน หรืออีก 3-4 วัน จะไปหาจิตแพทย์เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อไม่ให้แพมใช้อารมณ์และสื่อไปพาดพิงผู้อื่น เพื่อที่เมียของผม จะได้กลายเป็นมาดามแพมคนเดิมที่อารมณ์ดีเหมือนเดิม เข้มแข็ง แข็งแกร่ง เป็นเหตุเป็นผล เป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผลอีกต่อไปครับ”

นอกจากนี้ด้านสาวน้ำตาลได้ออกมาเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กของตัวเองต่อว่า “ถึงคุณมาดามแพม ตาลไม่แน่ใจนะคะว่าจุดประสงค์ของคุณจะมีความประสงค์อะไรในการโพสต์ในครั้งนี้ แต่ก็ทำให้คนอื่นมองตาลไม่ดีเหมือนกัน ถ้าตาลจะมีปัญหาเรื่องการไหว้ ตาลคงอยู่ในวงการไม่ได้แล้วค่ะ ทางบ้านตาลก็สอนเรื่องมารยาทค่ะ แล้วก็มีทีมงานเห็น ผู้จัดการเห็นยืนยันว่าตาลไหว้จริงๆ แล้วมีโทรศัพท์ผู้ใหญ่เข้าเลยรับสายคุยงานยาว พอกลับมาก็ไม่เห็นคุณมาดามแพมอยู่แล้ว แล้วพอตาลไปถ่ายรายการต่อ ถ่ายเสร็จก็เห็นดราม่า ทางทีมงานก็โทรศัพท์ไปหาคุณมาดามแพมแล้ว แต่คุณมาดามแพมไม่คุยและที่บอกว่าคุณมาดามแพมเข้าหาตาลตลอดด้วยความรัก ถ้ามาด้วยความรักจริงๆ ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ คนรักกันเค้าไม่ทำแบบนี้นะคะ เพราะเราเองก็ไม่ได้สนิทกันเลยค่ะ ครั้งหน้าก่อนจะโพสต์อะไรขอความจริงนะคะ”

อย่างไรก็ตามด้านน้ำตาลยังคงทิ้งท้ายในคอมเมนต์โพสต์ตัวเองเพิ่มเติมว่า “ถ้าเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆ ก็ไม่น่าทำร้ายคนอื่นแบบนี้นะคะ คนเป็นโรคซึมเศร้า เขาเป็นคนหลงๆ ลืมๆ ด้วยเหรอคะ ถามเพื่อความรู้” ทั้งนี้กลายเป็นว่าด้านชาวเน็ตกลับพากันไปถล่มแพม โดยกล่าวหาว่าเป็นพวกหิวแสง สร้างดราม่าเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียง ทั้งที่มีพยานเห็นว่าน้ำตาลไหว้แล้ว และล่าสุดทางด้านแพมเธอก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อขอโทษน้ำตาลว่า “หลังจากมาดามแพม ได้มาคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็ตั้งสติได้ว่า มาดามแพมเป็นคนที่ทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้ใหญ่เลยค่ะ มาดามแพมเป็นคนผิดเต็มๆ ค่ะ มาดามแพมเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป จนทำให้น้องและใครหลายๆ คนเดือดร้อน โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนโพสต์ ทั้งๆที่น้องอาจจะไม่ว่าง ติดธุระ หรือติดภารกิจอยู่ ทั้งนี้มาดามแพมต้องขอโทษน้องน้ำตาล มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ที่วิ่งเข้าไปหาตอนที่หนูกำลังทำงาน เพราะทุกครั้งพี่ก็เป็นคนวิ่งเข้าไปหาหนูตลอดด้วยความรักค่ะ ที่ทำให้น้องไม่สบายใจและเสียหายค่ะ มาดามแพมจะพิจารณาตัวเองและปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองให้มากกว่านี้ค่ะ”

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @Madampam Makeup by Winlaphat, @Namtan Chalita Suansane