เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 22.00 น. วานนี้ (26 ส.ค.) ร.ต.อ.เปล่ง พานแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากประชาชนพบเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณกลางสะพานอโยธยาข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ไม่พบเจ้าของรถจักรยานยนต์ พบเพียงกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือ ประสานสายตรวจ พร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู อยุธยา ไปตรวจสอบ
ช่วงกลางสะพานอโยธยา พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น adv สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กภ 5327 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่ ใกล้กันพบกระเป๋าแบบคาดเอวสีดำ กุญแจรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง วางอยู่บริเวณฟุตปาธของสะพาน ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบบัตรประชาชนระบุชื่อนายศิริชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่จึงประสานติดตามหาญาติให้มาที่เกิดเหตุ
นายพิชัย ลำไยผล อายุ 30 ปี พลเมืองดี กล่าวว่า ตนขับรถข้ามสะพานมา เห็นจักรยานยนต์จอดอยู่ แต่ไม่มีคนอยู่ จึงได้จอดรถดู พบกระเป๋า กุญแจรถ โทรศัพท์ จังหวะนั้นเพื่อนของเจ้าของรถจักรยานยนต์โทรฯ เข้ามาพอดี ตนเองจึงรับสาย จนทราบว่า เจ้าของรถจักรยานยนต์น่าจะกระโดดลงแม่น้ำไปแล้ว เพราะเพื่อนส่งข้อความมาลา
ต่อมานายธงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี นางวาทินี (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของผู้ที่มีชื่อตามบัตรประชาชน พร้อมด้วยครอบครัวได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกับยืนยันว่า รถจักรยานยนต์และเอกสารที่พบเป็นของลูกชาย
นางวาทินี ผู้เป็นแม่อยู่ในการเศร้าโศกเสียใจ พร้อมกับเปิดเผยว่าลูกชาย กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา การเรียนปกติ หลังเลิกเรียนลูกชายจะหารายได้พิเศษส่งตัวเองเรียนด้วยการเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร อยู่กับครอบครัวที่บ้าน ปกติไม่ได้แสดงอาการเครียดหรือบ่นเรื่องราวอะไรให้ฟัง ทางครอบครัวยังตกใจอยู่ว่า ทำไมลูกจึงได้มาตัดสินใจกระโดดสะพานลักษณะนี้
ต่อมานายป๋อง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เพื่อนสนิทของนายศิริชัย ที่นายศิริชัย ได้โทรศัพท์ไปหาก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดสะพาน แต่ไม่ได้รับสาย โดยได้ส่งข้อความเสียงทิ้งเอาไว้ “ฝากลาพ่อแม่และครอบครัว บอกรักพ่อแม่มากที่สุดในชีวิต” พอได้ยินเสียงข้อความจึงรีบเดินทางมาทันที เพื่อนเป็นคนที่เรียนปานกลาง บ่นเพียงว่ารายได้ขับไรเดอร์น้อย มีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 วัน ดูเงียบๆ ไป ซึ่งจากปกติจะร่าเริง โดยในวันวันที่ 29 ส.ค. นี้ จะทำการสอบกลางภาคอยู่แล้ว ไม่คิดว่าเพื่อนจะมาตัดสินใจทำแบบนี้
ภายหลังทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำเรือเร็ว 2 ลำ ออกค้นหาภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีกระแสน้ำไหลแรง และมีความลึกกว่า 13 เมตร จัดชุดประดาน้ำ ลงงมค้นหา จนถึงเวลา 03.00 น. ของวันนี้ ก็ยังไม่พบนายศิริชัย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการค้นหาอีกครั้ง.
