นายคริสตอฟ โทคาซ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการผลิต บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกด้านการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน เปิดเผยว่า ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ในไทยมีการแข่งขันด้านราคามากขึ้นเนื่องมาจากมาตรการสร้างแรงจูงใจของรัฐบาล ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า ที่นำเข้ามาจากประเทศจีนนั้นมีราคาที่เทียบเท่ากับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แม้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่น ที่เปิดตัวในไทยต้องมีการชะลอการขายเนื่องจากมีข้อจำกัดใน ด้านอุปทานและความต้องการสูงในประเทศจีน แต่จากข้อมูลของ เอบีม คอนซัลติ้ง ปัญหาข้อจำกัดด้านอุปทานนั้น จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และคาดว่าจะมีปริมาณการขายที่สูงขึ้นมากในเร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีค่ายรถยนต์ต่าง ๆ เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

“ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณเตือนสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศ โดยเฉพาะผู้ผลิต ที่จัดหาส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับระบบส่งกำลังของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มีซัพพลายเออร์รถยนต์กว่า 360 ราย ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องปรับตัวและ เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ รถยนต์ไฟฟ้าครองตลาด”

นายคริสตอฟ กล่าวต่อว่า สำหรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ควรใช้กรอบการทำงาน 5 ขั้นตอนเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ คือ ด้านกลยุทธ์ ประเมินว่าควรมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์และ/หรือประเทศใด ด้านขีดความสามารถใหม่ ๆ ซึ่งจำเป็นต้องสร้างขึ้นมา ด้านความร่วมมือกับผู้อื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เชิงกลยุทธ์และเพิ่มเติมความสามารถที่จำเป็น ด้านเงินทุน ประเมินความต้องการเงินทุนและทางเลือกในการระดมทุน และการดำเนินงานแบบเรียนรู้ และยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ไม่มีวิธีแก้ปัญหาใดที่จะเหมาะกับทุกบริษัท เนื่องจากสถานการณ์ของแต่ละบริษัทมีความแตกต่างกัน แต่สามารถเรียนรู้จากความสำเร็จของบริษัทยานยนต์ในตลาดอื่น ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น การกระจายความเสี่ยงด้วยการร่วมสร้างธุรกิจใหม่ (สตาร์ทอัพ) การลงทุนผ่านการควบรวมกิจการ หรือปรับปรุงการดำเนินงานโดยการเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล.