สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ว่าโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์กลาง ในกรุงมอสโก ออกแถลงการณ์ ว่านายมิคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา หลังต่อสู้กับโรคประจำตัวเรื้อรังหลายโรคมาเป็นเวลานาน รวมอายุได้ 91 ปี

นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ และนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่กรุงลอนดอน เมื่อปี 2527


ขณะที่ทำเนียบเครมลินเผยแพร่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แสดงความเสียใจอย่างสูงสุดและร่วมไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของกอร์บาชอฟ ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่า ศพของอดีตผู้นำจะได้รับการฝังไว้ที่โนโวเดวิชี เคียงข้างกับภรรยา คือนางไรซา ทิทาเรนโก ซึ่งเสียชีวิตไปก่อน เมื่อปี 2542

นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ และประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ผู้นำสหรัฐ ลงนามในสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (ไอเอ็นเอฟ) ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อปี 2530


นายมิคาอิล เซอร์เกเยวิช กอร์บาชอฟ เกิดเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2474 ที่เมืองปริโวลโนเย ในเขตชนบทที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย มีความสนใจและเข้าสู่เส้นทางการเมือง ตั้งแต่ยังคงศึกษาด้านกฎหมาย ที่มหาวิทยาลัย โลโมโนซอฟ มอสโก สเตท โดยตำแหน่งทางการเมืองของกอร์บาชอฟในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งขึ้นสู่การดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค เมื่อปี 2528 ตามด้วยตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกและคนเดียวของสหภาพโซเวียต ระหว่างวันที่ 15 มี.ค. 2533 ถึงวันที่ 25 ธ.ค. 2534 ซึ่งเป็นวันที่สหภาพโซเวียต ล่มสลายอย่างเป็นทางการ

นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ และนายบอริส เยลต์ซิน ประธานาธิบดีคนแรกของรัสเซีย เมื่อเดือน ส.ค. 2534


อนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง กอร์บาชอฟดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบ “คิดใหม่” เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพโซเวียตกับกลุ่มประเทศตะวันตก โดยการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของกอร์บาชอฟ รวมถึงการสั่งถอนทหารของสหภาพโซเวียตออกจากอัฟกานิสถาน และการเจรจารวมชาติระหว่างเยอรมนีตะวันออกกับตะวันตก นำไปสู่การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน.

เครดิตภาพ : REUTERS