เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญ จุดประจันตคาม ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เขตตำบลประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่า พบจระเข้ขนาดใหญ่ นอนอาบแดดอ้าปากอยู่บริเวณขอบสระน้ำหลังบ้าน หลังออกมาตัดหญ้าบริเวณขอบบ่อหลังบ้าน พบอยู่ในบ่อน้ำหลังบ้าน กระโจนเข้ามาหาตน จึงรีบแจ้งไปยังอาสาหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญเข้าตรวจสอบและช่วยจับ หลังจากรับแจ้ง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยอุปกรณ์การจับจระเข้

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุบ่อน้ำบริเวณหลังบ้านเลขที่ 86 หมู่ที่ 6 ต.ดงบัง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พบเป็นสระน้ำส่วนบุคคล ที่ขุดไว้เก็บน้ำเพื่อนำมาใช้การเกษตร อยู่บริเวณหลังบ้าน โดยบ่อมีขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร เบื้องต้นพบจระเข้ตัวดังกล่าว ยังลอยคออยู่กลางสระ หลังจากเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง จระเข้เห็นคนเยอะ คาดว่าน่าตกใจ มุดน้ำหายไป ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสว่างบำเพ็ญ ได้ลงค้นหาจระเข้ตัวดังกล่าวอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง โดยการใช้กระแสไฟฟ้าอ่อนช็อตตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าจระเข้น่าจะหลบซ่อนอยู่ จนในที่สุดจึงพบจระเข้กำลังหนีออกนอกสระ จึงได้จึงใช้กระแสไฟฟ้าจี้ไปที่จุดจระเข้อยู่ และช่วยกันจับจระเข้ตัวดังกล่าวไว้ได้สำเร็จ

จากการตรวจสอบจระเข้ตัวนี้ มีความยาวประมาณ 2 เมตร 25 เซนติเมตร และมีความยาวรอบตัว 40 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม อยู่ในสภาพอ้วนท้วมสมบูรณ์แข็งแรง

สอบถาม นายนายอมร สอนจันแดง อายุ 58 ปี กล่าวว่า ขณะที่ตนเองกำลังเตรียมตัวที่จะตัดหญ้า มองไปเจอจระเข้พอดีเลยบอกกับแฟนว่าใช่จระเข้หรือเปล่า แฟนก็บอกว่ามันจะมีเหรอ ตอนแรกตนเห็นหัวขึ้นมาจึงได้ชะโงกไปดูก็พบว่าเป็นจระเข้ตัวใหญ่ กำลังนอนอ้าปากอยู่ขอบสระ หลังจากที่เห็นตน จระเข้ได้กระโจนเข้าใส่ โชคดีที่อยู่ไกล

ด้านนางปราณี หนักแน่น อายุ 59 ปี (เจ้าของบ้าน) กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากคนที่เช่าบ้านของตน ว่าน้ำไม่ไหล ตนจึงมาดูปรากฏว่า น่าจะเป็นเครื่องปั๊มน้ำเสีย จึงได้ให้คนมาตัดหญ้า ขณะที่กำลังตัดหญ้าอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นว่ามีสัตว์คล้ายกับจระเข้ลอยคออยู่ ตนจึงรีบแจ้งคนตัดหญ้าระหว่างที่คนตัดหญ้าชะโงกลงไปดูนั้น จระเข้ตัวดังกล่าวได้กระโจนเหมือนกำลังไล่กัด ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งตนไม่รู้ว่าจระเข้มาอยู่ที่บ้านได้อย่างไร

ด้านนายบรรเจิด ไพบูลย์ อายุ 42 ปี (อาสาสมัครมูลนิธิสว่างบำเพ็ญสถานจุดประจันตคาม) กล่าวว่า เบื้องต้นจระเข้ตัวดังกล่าวนี้ ที่พบในพื้นที่ และบริเวณเดียวกันกับที่มีการจับไปแล้วเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะมีจระเข้หลงอยู่ในพื้นที่อีกจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านบอกว่า โดยรอบในระยะทาง 2 กิโลเมตร เคยมีฟาร์มเลี้ยงจระเข้มาก่อน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดปราจีนบุรี จะนำจระเข้ตัวดังกล่าวไปบ่อพักฟื้น ก่อนจะปล่อยคืนสู่แหล่งธรรมชาติที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ต่อไป