เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่โรงพยาบาลระนอง นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมรับฟังการปฏิบัติงาน ขั้นตอนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ปัญหาอุปสรรค จาก นพ.อรุณ สัตยาพิศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระนอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง และทีมแพทย์ พยาบาลจังหวัดระนอง พร้อมได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุด PPE และหน้ากากอนามัย เพื่อบำรุงขวัญกำลังให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการจัดการผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งการลงพื้นที่มีการปฏิบัติที่เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
ด้าน นพ.อรุณ กล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่ว่า ขณะนี้ จ.ระนอง มียอดสะสม 3,109 ราย ติดเชื้อใหม่ 94 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ส.ค.64) และวันที่ 11 ส.ค. 64 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อประมาณ 70 ราย และยังมีบุคลากรทางการแพทย์ ที่ป่วยรักษาอาการติดเชื้อโควิดอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 10 ราย โดยได้รับเชื้อจากการปฏิบัติงาน พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวขอบคุณนายนิพนธ์และคณะ ที่มาเยี่ยมเติมขวัญกำลังใจครั้งนี้
จากนั้น นายนิพนธ์ และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดพังงา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรด่านหน้าจัดการสถานการณ์โควิด-19 ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล อสม. ฝ่ายปกครอง ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลเตรียม อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การเตรียมการเพื่อรองรับการระบาดของโควิด-19 ในส่วนของ จ.ระนอง และ จ.พังงา ได้มีการเตรียมการและวางแผนไว้เป็นอย่างดี และในส่วนของ จ.พังงาเอง ก็เป็นจังหวัดลำดับท้ายๆ ของการมียอดผู้ติดเชื้อ ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ก็ยังคงต้องติดตามและควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพราะความรุนแรงของการแพร่ระบาดจากพื้นที่จังหวัดควบคุมเข้มข้น และพื้นที่ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงยังคงน่ากังวล บุคลากรทางการแพทย์ พี่น้องฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ผู้บริหารท้องถิ่นนั้น เป็นด่านหน้าสำคัญที่มีความเสี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง และยังถือเป็นใจกลางสำคัญของการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ในทุกพื้นที่ ซึ่งการทำงานเพื่อจัดการโควิดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเกือบ 2 ปี นั้นรัฐบาลและประชาชนต่างทราบดีว่าทุกท่านได้เสียสละ ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติไปได้โดยเร็ว ซึ่งต่อไปนี้ยังไม่ทราบระยะเวลาของการสิ้นสุดการระบาดว่าจะมาถึงเมื่อไหร่
“ทุกฝ่ายรวมถึงประชาชนจะต้องร่วมมือกันเพื่อป้องกันไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นใจกลางสำคัญนี้ต้องแบกรับภาระมากจนเกินไป การเดินทางมาในวันนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจสรรพกำลังทุกฝ่ายเพื่อให้ทำหน้าที่ดูแลประชาชนได้ต่อไปอย่างเข้มแข็ง และมีกำลังใจ รัฐบาลพร้อมดูแลสนับสนุนเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อตั้งเป้าลดการสูญเสียจากโควิด-19” นายนิพนธ์ กล่าว.
