สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า กองทัพรัสเซียได้ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ในหลายพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคคาร์คิฟ โดเนตสก์ มิโคลาอิฟ และเคียร์ซอน


ขณะเดียวกัน รัฐบาลมอสโกกล่าวหายูเครนยิงปืนใหญ่อย่างน้อย 2 ครั้ง ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยูเครนและในยุโรป ซึ่งจำเป็นต้องปิดทำการเตาปฏิกรณ์ทั้ง 6 ตัว เมื่อต้นเดือนนี้ “ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย” ทั้งนี้ รัสเซียยืนยันว่า ระดับกัมมันตรังสีรอบโรงไฟฟ้าซาโปริชเชีย “ยังเป็นปกติ” ด้านกระทรวงกลาโหมของยูเครนออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา ปฏิเสธการเป็นผู้ยิงปืนใหญ่ในวันและเวลาดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของยูเครนทยอยขุดและลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต ออกจากสุสานหมู่ ในเมืองอิซูม


ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของยูเครนเดินหน้าขุดศพมากกว่า 400 ศพ ออกจากสุสานนิรนามขนาดใหญ่ ซึ่งมีการค้นพบในเมืองอิซูม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ประณามรัสเซียอยู่เบื้องหลัง และเรียกร้องประชาคมโลกร่วมกันกดดันให้รัฐบาลมอสโกต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเปรียบเทียบเหตุการณ์ครั้งนี้ กับการพบสุสานหมู่ ฝังร่างของประชาชนหลายร้อยศพ ในเมืองบูชา ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : REUTERS