สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา รัฐบาลเคียฟเคยประสานงานไปยังอิสราเอล เพื่อขอความสนับสนุนด้านระบบป้องกันขีปนาวุธ “ไอเอิร์น โดม”
อย่างไรก็ตาม ผู้นำยูเครน กล่าวว่า จนถึงตอนนี้เขายังไม่ทราบว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่” กับอิสราเอล และไม่เข้าใจ “เหตุผลที่แท้จริง” ของการที่อีกฝ่ายยังคงสงวนท่าที แม้รัฐบาลเทลอาวีฟเคยกล่าวเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาว่า จะ “พยายามช่วยเหลือยูเครนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
ด้านรัฐบาลอิสราเอลยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อท่าทีล่าสุดของเซเลนสกี อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา มีการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างเซเลนสกีกับนายกรัฐมนตรียาอีร์ ลาพิด ผู้นำอิสราเอล ซึ่งกล่าวว่า รัฐบาลเทลอาวีฟติดตามสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิดมาตลอด พร้อมทั้งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และคาดหวังให้คู่กรณีทุกฝ่ายร่วมกันคลี่คลายสถานการณ์ ผ่านการเจรจาอย่างสันติตามหลักการทูต
อนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับรัสเซียค่อนข้างตึงเครียดและอึมครึม โดยเป็นผลจากสงครามในซีเรีย และการที่ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย เคยกล่าวเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ว่า นายอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง “มีเชื้อสายยิวเช่นกัน” สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับอิสราเอล.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
