เมื่อวันที่ 27 ก.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้นำคลิปวิดีโอที่บันทึกจากกล้องหน้ารถมาโพสต์เตือนภัยผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงที่มีฝนตกหนัก ให้เพิ่มความระมัดระวังและลดความเร็วในการขับขี่เพื่อความปลอดภัย โดยจากในคลิปจะเห็นว่า ช่วงเกิดเหตุนั้นมีฝนตกลงมาต่อเนื่องและบนพื้นผิวถนนบางช่วงก็มีน้ำขัง ซึ่งรถคันที่ติดกล้องขับมาในเลนซ้ายสุดด้วยความเร็วไม่มากนัก และรถจักรยานยนต์อีกคันขับขี่นำหน้าอยู่ จากนั้นได้มีรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ขับแซงมาด้วยความเร็วในเลนขวาสุด พร้อมขับผ่านรถคันที่ติดกล้องไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปเหยียบแอ่งน้ำที่ท่วมขังบนถนนในเลนขวาสุดชิดเกาะกลางเข้าอย่างจัง ทำให้น้ำที่ท่วมขังอยู่กระจายออกเป็นวงกว้าง และรถคันดังกล่าวเกิดเสียหลักเหินขึ้นไปบนเกาะกลางถนนก่อนจะหมุนตกลงมาอยู่ที่พื้นถนนซึ่งคนขับรถคันเกิดเหตุสามารถบังคับรถเข้าข้างทางได้อย่างปลอดภัย

เจ้าของรถคันที่ติดกล้อง เล่าว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา บนถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ช่วงบริเวณโค้งก่อนถึงวัดพุปลู ซึ่งตนเองเป็นคนในพื้นที่จะรู้ดีว่าถนนสายนี้เมื่อมีฝนตกหนักต่อเนื่องมักจะมีน้ำขังบนผิวถนนในเลนขวา ตนจึงขับรถช้าๆ เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย แต่เชื่อว่า คนขับรถคันเกิดเหตุน่าจะไม่ชำนาญเส้นทาง จึงขับรถมาด้วยความเร็วจนไปเหยียบแอ่งน้ำเข้าทำให้รถเหินน้ำเสียหลักพลิกคว่ำ หลังเกิดเหตุตนได้เข้าไปพูดคุยสอบถามอาการของคนขับและผู้โดยสารที่อยู่ในรถคันที่เกิดเหตุ พบว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ยังคงมีอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังพักสงบสติอารมณ์ได้ไม่นานก็สามารถขับรถต่อไปได้ตามปกติ