เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกองทัพอากาศปิดน่านฟ้าสนามบินดอนเมือง เพื่อซ้อมพิธีรับส่งหน้าที่ ผบ.ทอ. ว่า ด้วยสถานการณ์ที่เป็นปี พ.ศ. 2565 แล้ว พี่น้องประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทุกอย่างหมดแล้ว การที่จะ ผบ.ทอ.คนเก่าจะเกษียณแล้วส่งมอบตำแหน่งให้คนใหม่ โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างจริง แล้วยังมีวัฒนธรรมนี้ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นในยุคสมัยนี้ ถ้าเช่นนั้น ผอ.ทร. จะส่งมอบตำแหน่งไม่ต้องปิดน่านน้ำไทย หรือ ผบ.ทบ.จะส่งมอบตำแหน่งไม่ต้องปิดประเทศไปเลยหรือ ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่นึกถึงเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งประชาชนจะจดจำ ผบ.ทอ.ที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ว่าสร้างความเดือดร้อนไปตลอด

นายณัฐชา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเวลาของบประมาณกองทัพ มักเอาความเดือดร้อนของกำลังพลหรือทหารชั้นผู้น้อยมาเป็นข้ออ้างในการของบประมาณ แต่เมื่อได้รับงบแล้วกลับนำไปใช้แต่กับเรื่องแบบนี้ คือเอาไปดูแลคนใหญ่ของโตหรือผู้บังคับบัญชา ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อกำลังพลอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีอ้างว่ารันเวย์ส่วนหนึ่งในสนามบินดอนเมืองเป็นกองทัพอากาศนั้น ในภาวะสงครามรันเวย์และสนามบินเป็นของกองทัพอากาศ แต่ในภาวะปกติต้องเป็นของประชาชน จะมาอ้างว่าแบ่งให้ประชาชนใช้และทวงบุญคุณเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “ใหญ่ซะเหลือเกิน อยากทำอะไรก็ทำ มีประเทศไหนทำกันแบบนี้บ้าง ทำไมไม่ไปซ้อมนอกเขตการบินพาณิชย์ นี่จะปิดอีกวันที่ 27, 30 ก.ย. ใครจะบินเข้า-ออกดอนเมือง กรุณาเช็กให้ดีก่อนบินค่ะ”

เช่นเดียวกับ ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ “หมู่อาร์ม” อดีตทหารที่เคยออกมาแฉพฤติกรรมของผู้บังคับบัญชา ที่มาบังคับให้ลูกน้องเซ็นชื่อรับเบี้ยเลี้ยง-ค่าเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งที่ไม่ได้ไป ก็โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “พฤติกรรมนี้เขาเรียกว่า ไม่รู้จักกาลเทศะ ผบ.ทอ.ใหญ่ค้ำฟ้า จนมองข้ามหัวประชาชน อย่าอ้างว่าแจ้งล่วงหน้าก่อน เพราะสิทธิและเสรีภาพของประชาชนถูกละเมิดจากอภิสิทธิ์ชนของเหล่าทัพ ตอนประเทศเพื่อนบ้านรุกล้ำน่านฟ้าที่ จ.ตาก ทำไมไม่ขนไปกันเครื่องบินรบน่ะ มัวทำอะไรกันอยู่ #เครื่องบินรบมีไว้รับส่งหน้าที่