เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิง มีปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำปิง เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนริมสองฝั่งอย่างหนัก บางจุดรถไม่สามารถผ่านได้ ทางเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.33 กองบิน 41 เจ้าหน้าที่ชลประทานเชียงใหม่ รวมถึง ปภ.เชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เร่งออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะเดียวกันก็มีปริมาณฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในช่วงเวลา 09.00 น. จุดวัดน้ำปิงบริเวณ P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 4.52 เมตร ระดับน้ำปิงเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน บริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำ รวมถึงบริเวณถนนช้างคลาน ถนนเจริญประเทศ หมู่บ้านป่าพร้าวนอก หมู่บ้านเวียงทอง ปัจจุบันทางชลประทานได้เปิดประตูระบายน้ำป่าแดด ประตูระบายน้ำดอยน้อย ประตูระบายน้ำวังปาน และประตูระบายน้ำแม่สอย มีการเปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อเร่งระบายน้ำ สถานการณ์ล่าสุด น้ำเหนือยังคงมีปริมาณน้ำที่ไม่นิ่ง และปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ที่อยู่ด้านบนก็มีมวลน้ำจำนวนมาก โดยมวลน้ำนี้จะเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 วัน สำหรับสถานี P.67 แม่น้ำปิง ที่บ้านแม่แต อ.สันทราย ระดับน้ำ 3.83 เมตร สูงกว่าระดับวิกฤติ 0.03 ม. ปริมาณน้ำ 497.00 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ คาดการณ์ว่าน่าจะใกล้เคียงกับปี 54 โดยดูจากจุดตรวจวัด P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ในปี 54 วัดระดับน้ำสูงสุด 4.94 เมตร ปัจจุบันวัดได้ 4.52 ซึ่งระดับน้ำยังต่างกันอยู่ที่ 42 เซนติเมตร ทั้งนี้ทางชลประทานเชียงใหม่ ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังพล เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร มทบ.33, กองบิน 41 เจ้าหน้าที่ ปภ.เชียงใหม่ และ ปภ.เขต 10 ลำปาง ที่ได้นำเครื่องจักรเครื่องมือและกำลังพลเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เชียงใหม่ ขณะเดียวกันก็มีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเสียหายมากจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ สะพานในปางช้างได้พังลงและไหลไปกับน้ำ ขณะนี้ไม่มีสะพานข้ามในปางช้าง แต่ยังโชคดีที่ช้างปลอดภัยทุกเชือก ทำให้ไม่สามารถขนหญ้าไปให้ช้างกินได้ เพราะทุกสะพานเสียหายหมด รวมทั้งของหมู่บ้านด้วย น้ำป่าได้ไหลทะลักเข้าท่วมห้องพักรินรดารีสอร์ท ทำให้ต้องปิดปางช้างไปก่อน เพื่อสำรวจความเสียหาย