สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ว่า โรงงานกลั่นน้ำทะเลแห่งนี้คาดว่า สามารถผลิตน้ำดื่มได้ประมาณ 5 ล้านแกลลอนต่อวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับประชาชนราว 40,000 คน จะเป็นสาธารณูปโภคด้านน้ำขนาดเล็กในเขตออเรนจ์ ทางตอนใต้ของนครลอสแอนเจลิส

แทนที่จะพึ่งพาน้ำที่สูบจากระยะไกลหลายร้อยไมล์ ผ่านโครงการน้ำของรัฐ (เอสดับเบิลยูพี) หรือจากแม่น้ำโคโลราโด บริษัทการประปา “เซาท์ โคสต์ วอเทอร์ ดิสตริกท์” (เอสซีดับเบิลยูดี) จะมีน้ำประปาเป็นของตัวเอง

“เรากำลังดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่แม่น้ำโคโลราโด และมันไม่ใช่เรื่องที่ดี” นายริค ชินตาคุ  ผู้จัดการทั่วไปของเอสซีดับเบิลยูดี กล่าวถึงภัยแล้งรุนแรงที่อาจบังคับให้ประชาชนในแคลิฟอร์เนียและผู้ใช้แม่น้ำโคโลราโดรายอื่น ลดการใช้น้ำลง 15-30%

แม้โครงการจะยังต้องการใบอนุญาตของรัฐอื่น ๆ แต่อุปสรรคด้านกฎระเบียบสำคัญที่สุดคือ คณะกรรมการชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (ซีซีซี)

พื้นที่ที่มีการเสนออยู่ห่างไปทางตอนใต้ของชายฝั่งประมาณ 40 กม. จากที่ซึ่งซีซีซีเคยปฏิเสธข้อเสนอที่ใหญ่กว่า ของบริษัทโพไซดอน วอเทอร์ หน่วยงานด้านโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทบรูคฟิลด์ แอสเซต แมเนจเมนต์ ของแคนาดา โดยเจ้าหน้าที่ของซีซีซีพบว่าข้อเสนอใหม่ช่วยลดผลกระทบที่เป็นอันตราย และแนะนำให้มีการอนุมัติ

ขณะที่นายทอม ลัสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมอาวุโสจากซีซีซี กล่าวว่า รัฐกำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ของสถานที่ตั้งโรงงานกลั่นน้ำทะเลที่คล้ายคลึงกันเพิ่มเติม

“สิ่งนี้สามารถทำซ้ำได้ในหลายสถานที่ ทั้งตอนบนและตอนล่างของชายฝั่ง” ลัสเตอร์ กล่าว “แม้ว่าจะเป็นโรงงานขนาดค่อนข้างเล็ก แต่มันสามารถให้น้ำตามความต้องการในท้องถิ่น และมีน้ำให้สำหรับชุมชนอื่น ๆ อีกด้วย”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES