สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานซัลวาดอร์ ประเทศเอลซัลวาดอร์ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่า ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยอเมริกากลาง (ยูซีเอ) พบว่า 75.6% ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า พวกเขาไม่เคยใช้สกุลเงินดิจิทัลในปี 2564 และสัดส่วน 77% มองว่า การนำบิตคอยน์มาใช้เป็นตั๋วเงินชำระหนี้ตามกฎหมายเมื่อ 14 เดือนก่อน ควบคู่ไปกับเงินดอลลาร์ “ถือเป็นความล้มเหลว”

นายอันเดรว โอลิวา อธิการบดีของยูซีเอ แสดงความเห็นต่อผลการศึกษาดังกล่าวว่า บิตคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าลดลงในปีที่ผ่านมา “เป็นมาตรการที่ไม่ได้รับความนิยม, ไม่เป็นที่ยอมรับ และถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์”

แนวคิดของบูเคเลคือ การส่งเสริมการโอนเงินคริปโตฯ จากชาวเอลซัลวาดอร์ราว 3 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ ไปยังญาติพี่น้องของพวกเขาที่บ้าน ซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมธนาคารได้

แม้การตัดสินใจของบูเคเลจะเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากการโอนเงินเหล่านี้คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเอลซัลวาดอร์ แต่ตามข้อมูลของธนาคารกลางเอลซัลวาดอร์ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา พบว่า 1 ปีหลังจากที่มีการนำบิตคอยน์มาใช้ การโอนเงินจากผู้อพยพต่างถิ่นผ่านการใช้สกุลเงินดิจิทัล “มีน้อยกว่า 2%”

นอกจากนี้ ผลการศึกษาของยูซีเอยังระบุว่า 77% ของชาวเอลซัลวาดอร์ เชื่อว่า ประธานาธิบดีของพวกเขา “ไม่ควรใช้เงินสาธารณะเพื่อซื้อบิตคอยน์อีกต่อไป”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES