หลังจากที่ คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ในปี พ.ศ.2568 (ค.ศ.2025) ที่้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ที่มี “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธาน และนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. เป็นรองประธาน ได้มีการประชุมสรุปจังหวัดที่สมัครเสนอตัวขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้ง 2 มหกรรมกีฬา โดยมีแบบรายจังหวัดและที่รวมกลุ่มเสนอตัวเข้ามารวมทั้งสิ้น 12 จังหวัด ดังนี้

ในแบบแยกเป็นรายจังหวัดเดี่ยว ประกอบด้วย เชียงใหม่, กรุงเทพมหานคร, นคราราชสีมา และสงขลา ส่วนที่รวมตัวเสนอตัวแบบเป็นกลุ่มจังหวัดนั้น มี 4 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่ม 4 จังหวัดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ยโสธร และศรีสะเกษ ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่ม 3 จังหวัดอันดามัน ประกอบด้วย ตรัง, กระบี่ และภูเก็ต ขณะที่อีกกลุ่ม คือ กรุงเทพมหานครและชลบุรี และยังมีเพิ่มกลุ่ม กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และสงขลา ซึ่งทั้ง 12 จังหวัด ที่เสนอตัวเข้ามาจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไปนั้น

ล่าสุด นายประชุม ได้เปิดเผยความคืบหน้ากับผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ในเรื่องนี้ว่า ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ดร.ก้องศักด จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ในปี พ.ศ.2568 (ค.ศ.2025) มีวาระสำคัญคือการตั้งคณะอนุกรรมการ ขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อวางหลักเกณฑ์ ในการพิจารณาความพร้อม ข้อมูลด้านต่างๆ ของจังหวัดที่สมัครเสนอตัวขอรับเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเบื้องต้นกรอบการพิจารณาวางไว้ประมาณ 15 ข้อหลัก อาทิ สนามแข่งขันและฝึกซ้อม, โรงแรมที่พัก, ระบบการขนส่ง, แพทย์และพยาบาล, ระบบการรักษาความปลอดภัย และการมีส่วนร่วมของประชนชนในจังหวัด เป็นต้น

“หลังจากวางหลักเกณฑ์แล้ว คณะอนุกรรมการชุดนี้จะประชุมพิจารณาข้อมูลจากเอกสารของทั้ง 12 จังหวัด ก่อนจะลงพื้นที่สำรวจความพร้อม จากนั้นจะนำมาประมวลผลเพื่อให้คะแนนแต่ละจังหวัดตามหลักเกณฑ์ทั้ง 15 ข้อ ที่วางไว้ ก่อนจะนำเสนอต่อบอร์ด กกท. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่าในส่วนของ ครม.นั้น น่าจะประมาณเดือน ม.ค.ปีหน้า” รองผู้ว่าการ กกท. กล่าว

สำหรับระยะเวลาเชื่อว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือกคงไม่นาน เพราะเมื่อได้จังหวัดที่เหมาะสมแล้ว จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดนั้นๆ ต้องเตรียมการ รวมถึงต้องส่งผู้แทนเดินทางไปรับธงการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ต่อจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในเดือน พ.ค.66 ต่อไป

“กลุ่มอันดามัน”พร้อมเป็นเจ้าภาพเต็มที่

ทางด้าน นายณรงค์ โสภารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท.จ.ตรัง ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำข้อมูลพื้นฐาน 3 จังหวัดฝั่งอันดามันสำหรับเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 แจ้งว่า ทุกภาคส่วนในกลุ่มจังหวัดอันดามัน ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด ภายใต้การสนับสนุนของผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองท้องถิ่น ประชาชนและภาคีที่เกี่ยวข้องในการที่จะขออาสาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาครั้งนี้มีความมุ่งมั่นอย่างมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คณะทำงาน ได้มีการวางแผนเตรียมการและจัดทำแผนยุทธศาสตร์ รวมทั้งถอดบทเรียนอันเนื่องมาจากการเป็นเจ้าภาพของชาติต่างๆ ในหลายครั้งที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอความพร้อมต่อ กกท. ในฐานะอนุกรรมการพิจารณาเมืองเจ้าภาพฯ ซึ่งกลุ่มอันดามัน จะนำศักยภาพที่พร้อมทุกด้านทั้งสนามกีฬา โครงสร้างขั้นพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไป โดยเฉพาะที่พัก การคมนาคม และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญคือการยกระดับการจัดจัดการแข่งขันให้มหกรรมกีฬาของชาวอาเชียนเป็นเกมคุณภาพมาตรฐานสากลสอดคล้องกับยุคดิจิทัล เหนืออื่นใดคือการสร้างความประทับให้กับชาติสมาชิกที่มาเยือนตอบโจทย์การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป