เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วาระ 2-3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้านี้จะขอเสนอตัดงบประมาณในโครงการที่ดูผิดปกติที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ เนื่องจากในการตรวจสอบงบจัดซื้ออาวุธส่วนใหญ่มักให้ความสนใจเฉพาะรายการใหญ่อย่างเรือดำน้ำ แต่ความจริงแล้วมีงบอีกหลายตัวที่พบความผิดปกติไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างเช่นโครงการจัดหาเรือสนับสนุนเรือดำน้ำ (LPD) ซึ่งมี 2 ระยะ ระยะที่ 1 มีการอนุมัติงบประมาณ 4,385 ล้านบาท ระยะที่สองอนุมัติงบประมาณ 1,800 ล้านบาท รวม 6,185 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 2562-2565 

“ความผิดปกติที่พบคือโครงการเรือ LPD ระยะที่ 1 ในปี 62-64 ที่ผ่านมาแล้ว วงเงินตามที่อนุมัติคือ 3,215 ล้านบาท แต่กลับมีการเบิกจ่ายงบประมาณจริง 3,734.3 ล้านบาท หรือเกินมา 519.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเอาเงินมาจากงวดจ่ายเรือดำน้ำลำที่ 1 ที่จ่ายไม่ครบตามแผน ในปีงบ 2564” นายพิจารณ์ กล่าว  

นายพิจารณ์ กล่าวอีกว่า ในปี 65 กองทัพเรือยังคงของบประมาณตามกรอบเดิม คืองวดสุดท้าย 1,170 ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมที่ได้ในโครงการนี้เป็น 4,904 ล้านบาท สูงกว่าที่อนุมัติโครงการไว้ตอนแรก ซึ่งมีการชี้แจงจากสำนักงบประมาณว่า เงินที่เกิน 519.30 ล้านบาท กองทัพเรือสามารถเสนอขอมาที่สำนักงบเพื่อโอนเปลี่ยนแปลงกลับไปยังโครงการที่โอนออกมา ซึ่งก็คือโครงการเรือดำน้ำลำที่ 1 แต่ในทางปฏิบัติ ไม่มีหลักประกันใดเลยว่า กองทัพเรือ จะโอนเปลี่ยนแปลงไปที่โครงการเรือดำน้ำลำที่ 1 เพราะเป็นอำนาจของกองทัพเรือที่จะทำคำขอโอนเปลี่ยนแปลงเอง ไม่ได้ถูกบังคับตามกรอบกฎหมายใดๆ 

นายพิจารณ์ กล่าวว่า ต้องจับตาและติดตามดูว่าในปีงบประมาณ 2565 กองทัพเรือจะเอางบที่ตั้งเกินมานี้คืนกลับไปให้งบเรือดำน้ำหรือไม่ เพราะกรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2563 ที่มีการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณไปซื้อยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก ทำให้โครงการจัดซื้อนี้ไม่เคยผ่านการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรเลย ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ กองทัพยังไม่พยายามรีดไขมัน ปรับลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นซึ่งมีอีกเป็นจำนวนมาก ตนจึงขอเสนอตัดงบประมาณส่วนที่ขอเกินมานี้ในการพิจารณางบประมาณวาระ 2-3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้านี้