สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ว่า สำนักจัดอันดับ “หูรุ่น ริช” ซึ่งจัดอันดับคนที่ร่ำรวยที่สุดของจีน ที่มีทรัพย์สินขั้นต่ำ 5,000 ล้านหยวน (ประมาณ 25,000 ล้านบาท) ระบุว่า ในปีนี้มีมหาเศรษฐีที่อยู่ในอันดับเพียง 1,305 คน ซึ่งลดลง 11% จากปีที่แล้ว ขณะที่ความมั่งคั่งรวมของพวกเขาอยู่ที่ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 129 ล้านล้านบาท) ซึ่งลดลงจากเดิมถึง 18%
แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามในยูเครน และการเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายป้องกันโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดของประเทศ และการตกต่ำของทรัพย์สินที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ การปราบปรามด้านกฎระเบียบนาน 2 ปี ที่มีกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน เช่น อาลีบาบา กรุ๊ป และเทนเซ็นต์ โฮลดิงส์ ตลอดจนความกังวลว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะเสียสละการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่ออุดมการณ์ในการดำรงตำแหน่งผู้นำสมัยที่ 3 ของเขา ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน จนตลาดหุ้นของฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ร่วงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายจง สานส่าน เจ้าของบริษัทน้ำดื่ม “หนงฟู สปริง” และบริษัทผู้พัฒนาวัคซีน “ปักกิ่ง ว่านไท่ ไบโอโลจิคอล ฟาร์มาซี เอ็นเทอร์ไพรส์” ครองอันดับ 1 มหาเศรษฐีจีนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 17% เป็นมูลค่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท)
แม้นายจาง อี้หมิง ผู้ก่อตั้งบริษัทไบต์แดนซ์ เจ้าของ “ติ๊กต็อก” จะเป็นมหาเศรษฐีจีนอับดับ 2 แต่ความมั่งคั่งของเขาลดลง 28% เป็น 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท) เนื่องจากการประเมินมูลค่าของบริษัทไบต์แดนซ์ลดลง.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
