กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำคลิปหลักฐานและเอกสารทั้งหมดเข้ายื่นกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ สน.ทองหล่อ และขอให้ความเป็นธรรมแก่พลเมืองดีที่ทำเพื่อสังคมอย่างตัวเอง ที่ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งทุนจีนสีเทามาเปิดเผยสู่สาธารณะ โดยช่วงหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์ประจันหน้ากันระหว่างนายชูวิทย์และนายสันธนะ ภายหลังจากทั้งคู่ต่างเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เสร็จสิ้น ได้เดินลงมาที่ด้านล่างอาคาร หวิดเกิดเหตุการณ์ชุลมุน อีกทั้งนายชูวิทย์ยังได้ตะโกน “ไอ้สันขวาน” และพูดจาท้าทายต่อหน้านายสันธนะอีกด้วย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้วนั้น

‘ชูวิทย์’ แจงชัดหวิดวางมวย ‘สันธนะ’ ลั่นท้าชก หากยืนเกิน 1 นาที ‘ยอมก้มกราบ’

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ โรงแรมแกรนด์เซนเตอร์พอยต์ เพลินจิต ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ กล่าวถึงกรณีวานนี้ ว่า ตนไม่ได้ตั้งใจยั่วนายชูวิทย์ แต่ยอมรับว่าตั้งใจไป สน.ทองหล่อ จริง โดยตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเเจ้งที่ สน.ลุมพินี แต่ทราบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปที่นั่น เนื่องจากนายชูวิทย์จะยื่นหนังสือ ซึ่งรายละเอียดในหนังสือดังกล่าวพบว่า เนื้อหามีการร้องเรียนตนโดยตรง มีการยัดเยียดว่าตนปกป้อง 5 ทุนจีนเหล่านั้น ส่วนการเอาข้อหาเรื่องยาเสพติดมาป้ายสีตน ถือว่าน่าเกลียดมาก ต้องถามย้อนว่า พวกคุณใกล้ชิดเรื่องยาเสพติดมากกว่าตนหรือไม่

ส่วนการร้องเรียนเมื่อวานของนายชูวิทย์นั้น นายสันธนะ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการประจานตนเอง ระบุชื่อตนว่าปกป้องอะไรบ้าง พอยืนฟังก็คันหู ต้องไปรอกว่าจะพล่ามจบ เลยเคาะประตู เเต่ตนคิดว่าเขาคงไม่ได้ยิน เพราะในห้องนั้นมีคนอยู่เยอะ ส่วนจะมองว่า การที่ตนตะโกนหน้าห้อง จะเป็นการไม่ให้เกียรติ เพราะรอง ผบ.ตร. นั่งอยู่หรือไม่นั้น คือ ตนถือว่าต้องบอกเขาตอนนั้น เพราะเขาเอ่ยชื่อตน แต่จะให้โทรศัพท์เข้าไปก็คงไม่ใช่ แล้วอีกอย่าง จังหวะนั้นอาจจะไม่ได้เจอกันก็ได้ เพราะเผื่อเขาหลบไปก่อน

นายสันธนะ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อวานนายชูวิทย์ เกิดอาการอะไร จำอายุตัวเองไม่ได้ อยู่ๆ เมื่อวานก็อายุเยอะกว่าตน มองว่านายชูวิทย์ดูสับสน อีกทั้งวันนี้ ตนทราบว่าผู้กองธรรมนัสได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งในตัวคลิปก็ไม่ได้มีการพูดถึงตนแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงตนนั้น อยากถามว่า เขาทำหน้าที่อะไร ลืมไปหรือไม่ว่าตัวเองไม่ใช่ ผบ.ตร. การมากล่าวหาว่า ตนรู้จักบ่อน หาว่าตนรีดไถ มันพูดด้วยปากได้นะ แต่ให้เอาเจ้าของบ่อนมาถามเลยว่า ตนไปรีดไถอย่างไร

นายสันธนะ กล่าวอีกว่า ตนคงไม่คุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แล้ว ไม่ต้องคุยแล้ว ส่วนที่อยากต่อสายตรงเมื่อวานเพราะอยากรู้ว่า “ไอ้สันขวาน” หมายถึงใคร เพราะใครฟังก็รู้ว่าคำนั้นหมายถึงใคร ซึ่งถ้าเสรีพิศุทธ์ ยอมรับว่าหมายถึงตน ตนก็จะดำเนินคดี แต่ถ้าไม่ได้หมายถึงตน อันนี้ก็แล้วแต่เขา ก็ทำอะไรทางคดีไม่ได้ แต่ในทางหน้าตาสังคม ใครลูกผู้ชายมากกว่ากัน ก็ไปดูเอา

“เรื่องอ่าง ผมยอมรับว่านายชูวิทย์เป็นเทพ แต่ตอนมาหาผมเรื่องกาสิโนบ่อน เขาไม่รู้เรื่องเลย พอมานั่งนึก..ผมไม่น่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ เพราะเรื่องกาสิโนก็มาถามผม เรื่องบ่อนใน กทม. ผมก็บอก ดังนั้น ก่อนจะพูดอะไร ให้สะท้อนดูกระจกบ้าง” นายสันธนะ กล่าว

นายสันธนะ กล่าวอีกว่า กรณีนายชูวิทย์ พร้อมรับนัดชกนั้น ตนถามหน่อยใครเป็นแบ๊กให้ ถ้าไม่ดึงเขากลับก็รับผิดชอบด้วยละกัน ทั้งผู้จัดการทีม ทั้งผู้เล่น ต้องรับผิดชอบด้วย ถ้ากล้ามาเล่นกับตน ซึ่งมันผิดปกติไหม อาการแบบนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าเล่น ใครคอยส่งสคริปต์ส่งบทให้เขามาเล่นกับตน ซึ่งบุคคลดังกล่าวนี้ เป็นอดีตทหารใหญ่ พ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ยังมีอำนาจกุมเหนือรัฐบาล อย่างไรก็ตาม รู้กันอยู่แล้วว่าใครเป็นลูกพี่เขา ทั้งนี้ จะบอกว่านายชูวิทย์ไม่เคยเจอตนก็ได้ แต่แนะนำให้เขากลับไปกินยา แต่ถ้าพูดมาก ต้องถามว่าจะให้ตนเรียกบุคคลนั้น ที่เจอกันตอนหนุ่มๆ มาเป็นพยานหรือไม่

ส่วนเรื่องการอยู่บนเวทีมวยที่มีการท้าว่า ตนคงอยู่บนเวทีไม่เกิน 1 นาที นายสันธนะ มองว่าพอระฆังดังเก๊ง นายชูวิทย์ ก็คงวิ่งมาถีบเอาซีนเฉยๆ ถ้าสวนไปคนละหมัด มันก็เท่านั้นที่เขาต้องการ ก็แค่นั้นเอง เอาไว้นอกเวทีดีกว่า ตนขอท้าให้เงิน 1,000,000 บาท หากพบว่าตนกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายฟอกเงินให้พวกธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านั้น แต่ถ้าเอาคนนั้นมาปั้นสร้างเรื่องป้ายสี ตนจะเอาผิดทั้งคู่

นอกจากนี้ นายสันธนะ ยังปิดท้ายว่า เรื่องราวระหว่างตนและนายชูวิทย์ จบไปตั้งแต่วันที่เขาพูดถึงตนแล้ว ส่วนประเด็นที่เขาจะตามติดตนไปทุกชาติ ขอให้เอาช่วงอาทิตย์นี้ให้พ้นก่อน เกาะให้ครบเดือนและถ้าตนไปไหนก็จะแจ้งพิกัดไว้ให้ พร้อมฝากนายชูวิทย์ว่า ให้หาอะไรที่เหมาะๆ จะได้นอนสบายๆ ไปเลือกสรรไว้ก่อนแล้วกัน จะได้พักผ่อนเต็มที่ ส่วนกรณีเมื่อวาน ถ้านายชูวิทย์เข้ามา เท้าคงจะไปก่อน เพราะเท้ายาวกว่ามือ ถ้าล่วงล้ำเข้ามาก็คงกระเด็นไปก่อน แต่วงนั้นมีคนเยอะ เราก็ห่วงคนรอบข้าง แต่ถ้าเข้ารัศมีเรา อะไรยาว ก็คงกระเด็นออกไปก่อน ไม่ให้ถึงตัว ดีที่ตนยั้งไว้ก่อน ทั้งนี้ มีหลายคดีแล้วที่ตนเเจ้งความนายชูวิทย์ เช่น หมิ่นประมาท และก็ที่เขาไปออกรายการต่างๆ กะเอาให้ครบ 10 คดี เลยขอให้เขาเร่งๆ ทำยอดหน่อย.