ทำเอาชาวเน็ตต่างส่งกำลังแรงเชียร์อย่างล้นหลามอยู่ในขณะนี้ หลังเพจเฟซบุ๊ก @สู้ดิวะ อาจารย์แพทย์หนุ่มวัย 28 ปี ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวมรสุมชีวิต ที่ตอนนี้เขากำลังจะแต่งงาน แต่ตรวจพบมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ขณะที่ตนยืนยันว่า ดูแลตัวเองอย่างดีมาตลอด ซึ่งทำให้มีคนสนใจเรื่องราวดังกล่าวอย่างมากนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ย. โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสแชร์เรื่องราวจาก พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ สารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายหลังจากที่ได้แชร์ประสบการณ์สู้กับ มะเร็งปอด โดยระบุว่า “ใครว่ามะเร็งไกลตัว…อะ…จะเล่าให้ฟัง” เออ…เราเป็นตำรวจ ทำงานหนักพักผ่อนน้อย เป็นเรื่องธรรมดา แต่เราอะ ชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจเลยนะ ถึงขั้นเสพติดเลยก็ว่าได้ กินเหล้า สังสรรค์บ้าง ตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่สูบบุหรี่นะ ที่บ้านก็ไม่มีใครสูบ

“พอวันสงกรานต์ ปี 65 อยู่ๆ ปวดแขนขวา แข็งๆ ตึงๆ งอลำบาก สีเริ่มเปลี่ยน ไปหาหมอตั้งหลายที่ก็ให้แต่แก้อักเสบมาทาน ก็ไม่หาย 3 วันต่อมา มีบวมๆ ที่คอด้วยนะ เลยไปหาหมอ รพ.ตร. เค้าจับเราแอดมิทเลย ให้ยาแก้อักเสบ 6 วัน ก็ไม่หาย เลยเจาะชิ้นเนื้อที่คอไปตรวจ อีกอาทิตย์หนึ่งผล !!!ผ่ามๆ!!! เป็นมะเร็งปอด ระยะลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองจ้า ช็อกเลยทีเดียว แต่ตอนนั้นตั้งสติดีมาก ไม่ท้อเลย คิดหาทางแก้ไขอย่างด่วน”

ขั้นตอนการรักษาคือ คีโม (เคมีบำบัด) + ฉายรังสี (ฉายแสง) บริเวณทรวงอก โอ้โห อธิบายความทรมานออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยจ้า กินไม่ได้ นอนไม่หลับ แสบหลอดอาหาร ตื่นทุกชั่วโมง ต้องนอนคว่ำเท่านั้น ชีวิตเน้อออออ… แต่ไม่เป็นไร อดทน ฮึบๆ เชื่อว่ามันต้องหาย

หมอมาร์คจุด เตรียมฉายแสงละจ้า เออ…ผมร่วงจริงๆ แต่มันค่อยๆ ร่วงนะ มันร่วงเป็นหย่อมๆ นี่ฉายแสงเกือบจะครบคอร์ส 33 ครั้งละ คอไหม้เลยจร้า จากนั้นเริ่มตกสะเก็ด คิดบวกเข้าไว้ อย่าท้อ อย่าหมกอยู่แต่ในห้อง ออกมาสูดอากาศ สวนสาธารณะบ้าง แต่ตอนนี้นี่คือวิ่งไม่ได้แล้วนะ หอบ เหนื่อย ไอเยอะ เลยได้แต่เดินๆ แกว่งๆ แขน ดูคนอื่นออกกำลังกายมันก็ทรมานดีเนอะ555+

“เข้าเครื่อง PET Ct ดูว่า การรักษาตอบสนองมั้ย ช็อกอีกรอบ…!!! ไม่ตอบสนองเลย!!! เซลล์เนื้อร้ายขนาดเท่าเดิม 1.4 ซม. ในปอด ยังไม่พอ กระจายไปตับอีกหลายจุด กระจายไปกระดูกสันหลังอีกจุดนึง” ตอนนั้นคือ ใจมันตกไปอยู่ตาตุ่มจริงๆ หมอบอกคงต้อง เปลี่ยนแผนการรักษาจากที่จะให้หายขาด เป็นประคองไปเรื่อยๆ ก็คือ คงคีโมไปเรื่อยๆ (ในใจคือปล่อยแล้วนะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด)

แต่ในความโชคร้ายมันก็ยังมีความโชคดี หมอเอาชิ้นเนื้อที่เคยเจาะไว้ ไปตรวจด้วยการย้อมสีเพิ่มเติม จึงรู้ว่า เซลล์กลายพันธ์ุ ชนิด ALK ซึ่งพบน้อยมากในคนเอเชีย (ทุกวันนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้เลย ว่าเป็นมะเร็งจากสาเหตุใด) หมอแจ้งว่า มียามุ่งเป้า (targeted therapy) ซึ่งมันจะไปกดให้เซลล์ร้าย สงบ แล้วก็ใช้ชีวิตกับมันไปเรื่อยๆ กินยาตลอดชีวิต จนกว่าจะดื้อยา ก็ลองยาตัวนี้มาได้เดือนกว่าๆ แล้ว รู้สึกดีขึ้นนะ เพลียน้อยลง เริ่มออกกำลังกายได้ดีมากขึ้น ก็ขอให้มันตอบสนอง แล้วก็คงต้องกอดคอกันไปกับมัน

“ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำอวยพร มันช่วยได้จริงๆ นะ อยากจะฝากถึงทุกๆ คน ทุกๆ อย่างในชีวิตไม่แน่ไม่นอนจริงๆ แต่หากเกิดขึ้นแล้ว ต้อง “ตั้งสติ” เตรียมรับมือ และสิ่งที่อยากจะบอก กาดอกจันทน์ 100 ดวง คือ คำว่า “ใจ” ใจมันต้องได้นะ ยาจะดีแค่ไหน แต่ถ้าใจไม่ได้ ยามันก็ไม่ได้ผลหรอก”

นอกจากนี้ นายตำรวจหนุ่มยังได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมด้วยว่า “ในวันที่ ยังออกกำลังกายได้ ออกเถอะเชื่อผม เพราะวันที่ได้แต่มองดูคนอื่นออกกำลังกายมันทรมานเสียจริงๆ” งานอะไรที่ทำให้เสียสุขภาพ จงรักษาสมดุลชีวิตให้ดี สุขภาพหาซื้อไม่ได้ เชื่อผมเถอะ เวลาตกเหว คุณไม่ได้ตั้งตัวหรอก เชื่อผมเถอะ ทุกอย่างมันจะประดังเข้ามา แต่ขอให้คุณตั้งสติ ใจชนะ อะไรมันก็ชนะ เคยตั้งเป้าหมายในชีวิตอะไรมากมาย แล้ววันหนึ่ง คุณจะเข้าใจว่า ตื่นมา มีลมหายใจในวันใหม่ ก็มีความสุขแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่า นึกถึงเคสคุณหมอหนุ่มที่ป่วยมะเร็งปอดเช่นเดียวกัน พร้อมอวยพรขอให้คุณตำรวจคนดังกล่าว หายป่วยโดยเร็ววันอีกด้วย..

ขอบคุรภาพและข้อมูลจาก @รุ่งคุณ จันทโชติ