จากกรณีข่าวดังสุดสะเทือนใจของชาวอีสาน ภายหลังจากมีหนุ่มพลเมืองดีขับรถไปทำงานกลับเห็นความผิดปกติของหนุ่มรายหนึ่ง ที่ทำตัวลับล่อริมข้างทาง พร้อมกับมีพฤติกรรมแปลกๆ เนื่องจากมีเด็กชายวัย 13 ปี กำลังนั่งอยู่บนตัก และถูกชายดังกล่าวกอดรัดตัวแน่น จนทำให้พลเมืองดีตัดสินใจขับรถวนไปดูอีกครั้ง แต่เมื่อจอดรถถามว่าทำไร กลับพบว่าเด็กน้อยมีท่าทีแปลกๆ พร้อมกับพยายามทำสัญญาณมือบางอย่าง หนุ่มพลเมืองดีไม่รอช้า จึงบอกให้เด็กรีบกลับบ้าน

จากการรายงานข่าวล่าสุด ทางตำรวจ จ.ขอนแก่น ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนศาลจังหวัดขอนแก่น อนุมัติหมายจับ นายยุทธพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี นอกจากนี้ทางตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 และสืบสวน สภ.พระยืน ตามตัวเจอและได้จับคุม โดยเจ้าตัวยังปากแข็งรับว่า “ไม่ได้อนาจาร แค่เรียกมาถามทาง”

ในปัจจุบันมักมีข่าวลักษณะนี้ ให้เราเห็นบ่อยครั้งสำหรับปัญหาความรุนแรงหรือการถูกคุกคามทางเพศหรือคำพูด ทั้งเกิดขึ้นภายในครอบครัวและคนใกล้ชิด ซึ่งขณะที่ถูกกระทำเราอาจจะไม่สามารถขอความช่วยเหลือทางคำพูดได้โดยตรง แต่วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จะพาทุกคนมารู้จักกับการส่งสัญญาณมือขอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นแบบสากลและเป็นวิธีที่มีหลายคนเคยรอดจากเหตุการณ์ร้ายได้หลายครั้ง อาทิข่าวดังเมื่อกลางปี ที่เด็กสาวชาวอเมริกันเมื่อปี 64 ที่โดนลักพาตัวจากนอร์ทแคโรไลนา ได้รับการช่วยเหลือโดยตำรวจเคนทักกี หลังจากพยายามส่งสัญญาณมือเพื่อแจ้งเหตุร้าย นอกจากนี้ยังมีเคสที่แท็กซี่ถูกหนุ่มหลอกให้ขับรถไปส่งที่ จ.ระยอง ระหว่างทางเสพยาไอซ์โชว์ปืน อ้างเป็นตำรวจโชเฟอร์ไหวตัวทันเลี้ยวเข้าสถานีตำรวจและทำสัญญาณมือรอด

สำหรับขั้นตอนวิธีทำสัญญาณมือขอความช่วยเหลือนั้นมีทั้งหมด 3 ท่า คือ

  • หงายฝ่ามือออกจากตัว โดยไว้ตรงระยะกลางอกให้บุคคลที่เราต้องการจะสื่อสารเห็นชัดเจน
  • พับนิ้วโป้งเข้าหาฝ่ามือลงช้าๆ ค้างทิ้งไว้เล็กน้อย
  • พับนิ้วที่เหลือทั้ง 4 ลงมาอย่างช้าๆ ให้กุมปิดนิ้วโป้งที่พับไว้แน่นๆ

ทั้งนี้ให้ลองทำวนอีกครั้งอย่างช้าๆ เพียงจำแค่ 3 ท่า การส่งสัญญาณมือขอความช่วยเหลือไปให้คนอื่นช่วย ก็สามารถรับรู้และเข้ามาช่วยเหลือเราได้ทันที่…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ