จากกรณีโซเชียลแห่วิพากษ์วิจารณ์สนั่น คลิป TikTok ผู้ใช้ชื่อว่า @nobita_ncn ซึ่งเป็นเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ หลังหนุ่มพลเมืองดีได้ช่วยเหลือเด็กชายวัยประมาณ 10-15 ปี ที่ถูกชายวัยกลางคนบังคับข่มขู่โดยการสั่งให้เด็กนั่งตัก ทำลับๆล่อๆอยู่ใต้ต้นไม้ริมถนน แต่เด็กไหวพริบดีส่งสัญญาณมือให้คนเห็นกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัย หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้หลบหนีไป ส่วนน้องเยาวชนพาส่งถึงมือผู้ปกครอง และได้นำตัวไปแจ้งความตำรวจไว้แล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ขอบคุณความสังเกต! พลเมืองดีเห็นพิรุธหนุ่ม ‘บังคับ-ข่มขู่’ สั่งเด็กชายนั่งตัก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังผู้ปกครองพาเด็กชายผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ที่ สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น จึงได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานจากคลิปดังกล่าว รวมถึงสอบถามข้อมูลจากพลเมืองดีและเด็กชาย จนศาลจังหวัดขอนแก่น อนุมัติหมายจับ นายยุทธพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยเด็กนั้นไม่สามารถขัดขืนได้, พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือยอมจำต่อสิ่งนั้น และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง” ในทันที

ต่อมาวันเดียวกัน (21 พ.ย.) ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองที่เห็นข่าวว่า พบชายลักษณะดังกล่าวท่าทางกระตุ้งกระติ้งคล้ายกะเทย ขี่ จยย.อยู่บริเวณริมถนนในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม พื้นที่รอยต่อ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 และสืบสวน สภ.พระยืน จึงเร่งนำหมายจับดังกล่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กระทั่งพบ นายยุทธพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงแสดงหมายจับเข้าควบคุมตัว และจากการตรวจค้นรถ จยย.ผู้ต้องหา พบเอกสารและธนบัตรใบละ 20 บาท อีกจำนวนมาก ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ บช.ภ.4 จ.ขอนแก่น

สอบสวนเบื้องต้น นายยุทธพงษ์ ให้การภาคเสธว่าไม่ได้ทำการอนาจารเด็กชายแต่อย่างใด โดยยอมรับว่ามีการเรียกเด็กชายเข้ามาพูดคุยกันจริง แต่เพราะต้องการสอบถามเส้นทางเท่านั้น ส่วนเงินแบงก์ 20 บาทจำนวนมาก อ้างว่า เดินทางไปเรื่อยๆ เก็บของขายบ้าง และขอเงินจากชาวบ้านบ้าง สะสมมาเรื่อยๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.พระยืน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.