สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ว่า เทศบาลเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน ประกาศการล็อกดาวน์ “ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที” โดยเป็นการ “ขอความร่วมมือ” ประชาชนงดการออกนอกเคหสถาน “หากไม่มีความจำเป็นยิ่งยวด” แต่หากต้องการเดินทางออกไปยังพื้นที่แห่งอื่น ต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบและการอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าหน้าที่


ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวซึ่งยังไม่มีการยืนยันชัดเจน ว่าจะมีผลบังคับใช้นานเท่าใด ครอบคลุมประชากรในเขตเมืองเจิ้งโจวราว 6 ล้านคน แต่ทางการยืนยันว่า ยกเว้นโรงงานของฟ็อกซ์คอนน์ สายงานการผลิตไอโฟน หรือสมาร์ทโฟนของบริษัทแอปเปิล ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้ด้วย


แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองเจิ้งโจวอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 โดยเคยมีการล็อกดาวน์มาแล้ว เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ อีกทั้งมาตรการทั้งหมดยังยกเว้นให้กับโรงงานของฟ็อกซ์คอนน์ ทว่าการบังคับล็อกดาวน์ทุกครั้งเกิดขึ้นหลังสถานการณ์วุ่นวายภายในโรงงานแห่งนี้ ซึ่งกรณีล่าสุดคือการประท้วงครั้งใหญ่ของบรรดาคนงาน เพื่อเรียกร้องการเพิ่มค่าตอบแทน และการยกระดับสวัสดิการ


ด้านฟ็อกซ์คอนน์ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา ขออภัยอย่างสูงสุดสำหรับ “ความขัดข้องทางเทคนิคทั้งหมด” ที่เกิดขึ้นกับระบบจ่ายค่าตอบแทน ขณะที่แอปเปิลยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการต่อมาตรการล็อกดาวน์ที่เมืองเจิ้งโจว และความวุ่นวายที่โรงงานของฟ็อกซ์คอนน์ในรอบนี้ แต่เคยออกรายงานเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ว่าแม้อุปสงค์ของสมาร์ทโฟน “ไอโฟน 14 โปร” และ “ไอโฟน 14 โปร แม็กซ์” ยังคงแข็งแกร่งทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม การจัดส่งสินค้าทั้งสองรายการอาจล่าช้ากว่าแผนการ และอาจทำให้อัตราการเติบโตในรายได้ของบริษัทลดลงต่ำกว่า 8% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES