“Campus Life” กลับมาพบกันอีกครั้ง สัปดาห์นี้พาไปพบกับผลงานเจ๋งๆของ “ฝ้าย” สุกัญญา ชินวิชา และ “ไปซ์” ธีรภัทร เนียมหอม ปี 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่ร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชั่น “ฟู้ด อิน ทัช” นับแคลอรีในอาหารจากภาพถ่าย ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน คว้า รางวัลเหรียญทอง โครงการ Super AI Engineer Season 2 ประเภทบุคคล
“ไปซ์” เล่าว่า โครงการ Super AI Engineer Season 2 เป็นโครงการที่พัฒนาบุคลากรทางด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบธุรกิจในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งโครงการดังกล่าวมีการฝึกอบรมในรูปแบบ Online และ Onsite เน้นฝึกปฏิบัติจริง ผู้อบรมจะได้ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ตั้งแต่ระดับพื้นฐานถึงระดับสูง สามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอด แก้ปัญหา ออกแบบ วิจัย ทั้งเชิงวิชาการและเชิงธุรกิจ โดยกิจกรรมในโครงการแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 อบรมพื้นฐานและทฤษฎีด้าน AI แบบ Self-learning โดยเรียนผ่านระบบ Online ช่วงที่ 2 อบรมหลักสูตร AI ขั้นสูง เป็นการเข้าค่ายอบรมเชิงปฏิบัติการทั้ง Online และ Onsite โดยเน้นเสริมทักษะการวางแผน, ออกแบบ, วิเคราะห์, สร้างระบบ และ ซอฟต์สกิล ทำงานกลุ่มและเดี่ยว เพื่อเสริมความรู้ความสามารถ และเพิ่มประสบการณ์ การแก้ปัญหาด้าน AI จากโจทย์จริงขององค์กร โดยเน้นทักษะ 5 ด้าน ได้แก่ ประมวลผลภาพ, ประมวลผลสัญญาณ, ประมวลผลและการเข้าใจภาษาธรรมชาติ, วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งและหุ่นยนต์ ช่วงที่ 3 การทำงานสาขาปัญญาประดิษฐ์ในสถานประกอบการ ระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน โดยทางโครงการฯจะจัดหา ติดต่อ ประสานงานกับองค์กรหรือสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งการทำงานจะต้องเป็นโจทย์ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยได้ใช้โจทย์ด้วยการจัดทำแอพใช้ชื่อว่า “ฟู้ด อิน ทัช” มีลักษณะการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน ภายใต้แนวคิด “นับแคลอรีในอาหารจานเราจากภาพถ่ายเราเอง” โดยเน้นภาพที่อาหารไทยเป็นหลัก
“ไปซ์” บอกอีกว่า แอพดังกล่าวเป็นโจทย์ที่เราทำร่วมกัน แบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วน ดังนี้ 1. ทำนายว่าอาหารในจานนั้นชื่ออะไร 2. ใช้ AI เข้ามาจับภาพวัตถุดิบในแต่ละส่วนของอาหาร 3. นำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลเพื่อหาปริมาตรและเทียบความหนาแน่นของน้ำหนัก โดยนำ AI มาตอบให้ได้ว่าในจานนี้มีวัตถุดิบอะไรบ้าง น้ำหนักของแต่ละวัตถุดิบมีกี่กรัม เพื่อจะมาคำนวณแคลอรีทางวิชาการ จากนั้นจึงส่งต่อไปยังการประมวลผลเพื่อคำนวณหาปริมาตรต่อไป
ด้าน “ฝ้าย” บอกถึงการนำข้อมูลมาประมวลผลว่า เป็นการนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ทั้งการหาความลึกและสัดส่วนว่าอาหารแบบนี้ต้องทำนายอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าอาหารไทยมีข้อมูลในอินเทอร์เน็ตน้อยมากไม่เพียงพอที่จะนำมาปรับใช้ได้มากนัก ซึ่งข้อจำกัดตรงนี้ทำให้ทีมงานต้องปรับเปลี่ยนการทำงานในเรื่องข้อมูลอาหารไทยที่หลากหลายและนำไปสู่การต่อยอดการทำแอพพพลิเคชั่นในอนาคต
“สำหรับการต่อยอดเราจะรวบรวมข้อมูลที่ทำมาทั้งหมดเพื่อเทรนด์ให้กับโมเดลในแอพ ซึ่งจะช่วยให้โมเดลฉลาดยิ่งขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาแอพให้สามารถใช้งานในการหาค่าโภชนาการได้แม่นยำมากขึ้นโดยไม่จำกัดวัตถุดิบ ซึ่งคาดว่าภายในต้นปีหน้าจะสามารถพัฒนาต่อยอดระบบนี้ได้สำเร็จนำไปสู่การใช้งานจริง” “ฝ้าย” บอกถึงเป้าหมายในการต่อยอดพัฒนาแอพ “ฟู้ด อิน ทัช”
ทีมงาน “Campus Life” จะเฝ้าติดตามรอใช้แอพ “ฟู้ด อิน ทัช” อย่างใจจดใจจ่อ เพราะมั่นใจว่า แอพนี้จะช่วยให้เหล่าทีมงาน “Campus Life” เข้าคอร์สลดน้ำหนักได้เห็นผลแน่นอน
